“พาณิชย์” จ่อเซ็นซื้อขายข้าวจีทูจีกับจีน 1 ล้านตันวันนี้ ภายใต้สัญญาโครงการรถไฟไทย-จีน พร้อมเตรียมรับคณะอิหร่านตรวจคุณภาพข้าวไทย ก่อนเจรจาเสนอขายข้าวให้ 1 ล้านตัน หลังหยุดค้าขายไปนานจากกรณีที่อิหร่านถูกคว่ำบาตร เตรียมชง พกค.เคาะเป้าส่งออกปี 59 คาดขยายตัวเป็นบวก แต่ยังไม่สรุปท่าที TPP เหตุต้องรอผลศึกษาก่อน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 3 ธ.ค. น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้แทนกระทรวงฯ และผู้แทนจากคอฟโก ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ดูแลการนำเข้าข้าวของจีน จะเจรจาการทำสัญญาซื้อข้าวจากไทยในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ปริมาณ 1 ล้านตัน หากได้ข้อสรุปตามแผนจะมีการลงนามระหว่างกรมการค้าต่างประเทศกับคอฟโกเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป โดยข้าวที่ซื้อขายจะเป็นข้าวใหม่ ส่วนราคาซื้อขายจะใช้ราคาตลาดขณะส่งมอบแต่ละล็อต และคาดว่าจะส่งมอบแล้วเสร็จภายในปี 2559
ทั้งนี้ ไทยและจีนจะมีการประชุมโครงการร่วมกับทางการจีนเป็นครั้งที่ 9 เพื่อลงนามสัญญาการซื้อขายสินค้าข้าวปริมาณ 1 ล้านตัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ดูแลการลงนามซื้อยางพาราจำนวน 2 แสนตัน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ดูแล รวมถึงการลงนามสัญญาตามโครงการรถไฟไทย-จีน หากการเจรจาเป็นไปตามแผนที่กำหนด เนื่องจากก่อนหน้านี้ไทยมีท่าทีไม่เห็นด้วยที่จีนปฏิเสธซื้อยางพาราเก่าจากไทยและเปลี่ยนบริษัทที่จะเข้ามารับซื้อ ทำให้ไทยต้องการจะชะลอแผนการเจรจาทั้ง 3 สัญญาไว้ก่อน
นางอภิรดีกล่าวว่า ไทยกำลังเตรียมการต้อนรับคณะผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าวจากอิหร่าน ซึ่งเป็นตลาดเก่าของไทยและไม่มีการซื้อขายกันมานาน โดยไทยต้องการเสนอขายข้าวให้อิหร่านปริมาณ 1 ล้านตันในรูปแบบจีทูจี เพื่อเตรียมตลาดข้าวรองรับผลผลิตที่ออกสู่ตลาด เพราะนับตั้งแต่ที่อิหร่านถูกคว่ำบาตรจากประเทศตะวันตก ไทยก็ไม่ได้ทำการค้ากับอิหร่าน แต่หลังจากที่ไม่ถูกคว่ำบาตร จึงเป็นโอกาสในการขายข้าวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่รัฐบาลปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ ได้มีการขายข้าวในรูปแบบจีทูจีปริมาณรวม 2.3 ล้านตัน มูลค่า 3.3 หมื่นล้านบาท เป็นการส่งออกไปจีน 9 แสนตัน อินโดนีเซีย 6.4 แสนตัน และฟิลิปปินส์ 8 แสนตัน ส่วนการส่งออกข้าวปีนี้ตั้งเป้าว่ามีปริมาณ 10 ล้านตัน โดยการส่งออก 9 เดือนของปีนี้ทำได้แล้วปริมาณ 7.8 ล้านตัน
นางอภิรดีกล่าวว่า ในวันที่ 4 ธ.ค. 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (พกค.) โดยกระทรวงพาณิชย์จะเสนอแผนผลักดันการส่งออกปี 2559 รวมถึงเป้าหมายการส่งออก เบื้องต้นคาดว่าจะมีอัตราส่งออกขยายตัวเป็นบวก รวมถึงการหารือถึงแผนการผลักดันการส่งออกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ อัญมณีและเครื่องประดับ รวมถึงสินค้าบริการเป้าหมาย
ส่วนการพิจารณาเรื่องกรอบความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) จะยังไม่มีการนำเสนอ เพราะผลศึกษายังไม่แล้วเสร็จ และยังมีแผนที่จะจัดตั้งคณะทำงานโดยมีกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาผลกระทบเชิงบวกและลบก่อน ซึ่งที่ผ่านมาทั้งญี่ปุ่น สหรัฐฯ และประเทศในอาเซียน ได้แสดงท่าทีสนับสนุนไทยเข้าร่วม TPP แต่เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่มีความกว้างและลึกจึงต้องศึกษาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ