“ปลัดพาณิชย์” ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกที่ จ.อุดรธานี มั่นใจมาตรการรัฐช่วยดันราคาได้

“ปลัดพาณิชย์” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกให้กับเกษตรกร มั่นใจมาตรการที่มีอยู่จะช่วยดึงราคาไม่ให้ตกต่ำได้ ทั้งข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียว ด้าน กกร. เตรียมออกประกาศคุมเข้าการขนย้ายข้าวออกจากโกดังต้องปิดผนึกให้แน่น และขออนุญาตก่อน รองรับการเปิดประมูลข้าวเสื่อม

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 14 พ.ย.2558 กระทรวงพาณิชย์จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการดำเนินมาตรการช่วยเหลือและรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต 2558/59 ที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อดูแลการจำหน่ายข้าวเปลือกให้กับเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรม และได้รับราคาที่คุ้มค่ากับต้นทุนการผลิต ซึ่งถือเป็นการดูแลเอาใจใส่ต่อเกษตรกร เพราะก่อนหน้านี้ ทีมของกระทรวงฯ นำโดยรมว.พาณิชย์ ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาวการณ์จำหน่ายข้าวเปลือกที่จังหวัดอุบลราชธานีไปแล้ว

“เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรว่ารัฐบาลได้ให้ความสนใจ และดูแลการจำหน่ายข้าวเปลือกของเกษตรกรให้ได้ราคาดีที่สุด โดยจะมีทีมงานลงพื้นที่ออกตรวจสอบภาวการณ์จำหน่ายในทุกพื้นที่ที่ผลผลิตข้าวเปลือกออกสู่ตลาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกษตรกรโดนเอารัดเอาเปรียบ และยังจะไปแจ้งให้ทราบถึงมาตรการดูแลราคาข้าวที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ ที่จะมีผลต่อการดึงราคาข้าวให้สูงขึ้น”

น.ส.ชุติมากล่าวว่า กระทรวงฯ ขอให้เกษตรกรอย่าเพิ่งรีบเกี่ยวข้าวไปจำหน่าย แต่ให้ใช้ประโยชน์จากโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ที่จะปล่อยกู้ให้กับเกษตรกรในการเก็บข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 1.35 หมื่นบาท ข้าวเปลือกเหนียว 10% เมล็ดยาว ตันละ 1.13 หมื่นบาท และข้าวเปลือกเหนียวคละ ตันละ 1.03 หมื่นบาท เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ย.2558-28 ก.พ.2559 มีวงเงินดำเนินการ 2.9 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ยังได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยที่จะเข้าไปช่วยรับซื้อข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ราคาไม่ต่ำกว่า 2.6 หมื่นบาทต่อตัน เป้าหมาย 1 แสนตัน และเก็บรักษาไว้ 3 เดือน ตั้งแต่ธ.ค.2558-ก.พ.2559 ซึ่งจะช่วยดึงราคาข้าวเปลือกหอมมะลิไม่ให้ต่ำกว่าตันละ 1.35 หมื่นบาท

ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก โดยจ่ายชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวที่กู้ยืมเงินจากธนาคาร โดยมีสต๊อกข้าวเปลือกหรือข้าวสารที่รับซื้อจากเกษตรกรเป็นหลักประกันในอัตรา 3% ระยะเวลาเก็บสต๊อกไม่น้อยกว่า 2-6 เดือน เป้าหมาย 3 ล้านตัน ซึ่งล่าสุดได้มีธนาคารเข้าร่วมแล้ว 8 ธนาคาร ผู้ประกอบการค้าข้าวเข้าร่วม 299 ราย ต้นเงินกู้ในการรับซื้อข้าวเปลือกเก็บสต๊อก 79 ล้านบาท

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้ออกระเบียบการขนย้ายข้าวด้อยคุณภาพในโกดังของรัฐบาล เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำกลับเข้ามาสู่ระบบอีกครั้ง โดยกำหนดให้การขนย้ายข้าวออกจากคลังแต่ละคลัง จะต้องมีการปิดผนึกบรรจุภัณฑ์ข้าวด้วยตะกั่ว อย่างรัดกุม ไม่ว่าจะเป็นจำนวนมากหรือน้อย และในการขนส่ง จะต้องมีใบอนุญาตขนย้ายข้าวจากกรมการค้าภายใน ซึ่งจะมีการเซ็นสลักหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวเสื่อมกลับเข้าสู่ระบบ หรือมีการทุจริตในการขนย้าย และใบอนุญาตการขนย้ายดังกล่าวต้องส่งกลับมายังกระทรวงพาณิชย์ส่วนกลาง เพื่อยืนยันว่าข้าวจำนวนดังกล่าวได้ส่งมอบถึงภาคอุตสาหกรรมแล้ว ส่วนในต่างจังหวัด ได้มอบให้ค้าภายในจังหวัดสามารถเซ็นอนุญาตการขนย้ายข้าวได้ ซึ่งจะมีการออกประกาศ กกร. ต่อไป เพื่อรองรับการเปิดประมูลข้าวเสื่อมที่คาดว่าจะทำได้ภายในเดือนนี้