xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ยันต้องซื้อปาล์มเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% ขั้นต่ำกิโลละ 3.20 บาท พร้อมคุมเข้มลักลอบนำเข้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” ยืนยันต้องรับซื้อผลปาล์มดิบขั้นต่ำกิโลกรัมละ 3.20 บาท ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% ห้ามต่ำกว่านี้ แต่สูงกว่าได้หากราคาตลาดเพิ่มขึ้น พร้อมออกประกาศ กกร.กำหนดให้ลานเท ผู้ซื้อขาย คลังสินค้า ผู้ค้าส่งค้าปลีก และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ต้องแจ้งยอดซื้อขายตั้งแต่ 500 ตันขึ้นไป จับมือหน่วยมั่นคง ศุลกากร คุมเข้มการลักลอบนำเข้า

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ขอประกาศความชัดเจนในการรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกรจะต้องเป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (ส.กกร.) โดยต้องรับซื้อผลปาล์มดิบที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% ราคากิโลกรัม (กก.) ละ 3.20 บาท ห้ามซื้อต่ำกว่านี้ และให้ถือว่าราคา 3.20 บาทเป็นราคาขั้นต่ำสุดที่กำหนดให้รับซื้อ แต่ถ้าต่อไปราคาตลาดเพิ่มขึ้น ก็ต้องรับซื้อในราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

“กระทรวงฯ ขอยืนยันไว้ตรงนี้ ราคาขั้นต่ำสุดที่ให้ซื้อผลปาล์มดิบเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% อยู่ที่กก.ละ 3.20 บาท แต่ถ้าเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงขึ้นก็ให้ซื้อเพิ่มขึ้นเปอร์เซ็นต์ละ 30 สตางค์ หรือถ้าทำได้ถึง 21% ก็อยู่ที่ราคา กก.ละ 4.40 บาท โดยราคารับซื้อดังกล่าว ถือว่าเกษตรกรมีกำไร และคุ้มต้นทุนที่ และยังเป็นราคาที่สอดคล้องกับราคาตลาดโลกขณะนี้ที่ปรับตัวลดลง” น.ส.ชุติมากล่าว

ทั้งนี้ ต้นทุนการปลูกปาล์มอยู่ที่ กก.ละ 3.13 บาท หากรวมค่าขนส่งอีก 25 สตางค์ก็จะอยู่ที่ กก.ละ 3.38 บาท ซึ่งเป็นต้นทุนของเกษตรกรรายย่อย แต่หากเป็นสวนขนาดใหญ่ต้นทุนก็จะอยู่ที่ 2.50 บาทเท่านั้น

น.ส.ชุติมากล่าวว่า คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ยังได้กำหนดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบจะต้องแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ บัญชีซื้อขาย โดยให้เพิ่มผู้ที่จะต้องแจ้งเพิ่มเติมจากเดิมที่กำหนดให้โรงงานสกัดและโรงกลั่นเท่านั้นที่ต้องแจ้ง คือ ลานเท ผู้ประกอบการซื้อหรือขาย คลังรับฝาก ผู้ค้าส่ง ค้าปลีก ยี่ปั๊ว ที่มียอดขาดตั้งแต่เดือนละ 500 ตันขึ้นไป และอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่มียอดซื้อตั้งแต่เดือนละ 500 ตันขึ้นไป โดยให้แจ้งภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้โรงงานสกัดต้องแสดงอัตราร้อยละของน้ำมันปาล์มที่ผลิตได้จากการรับซื้อผลปาล์ม หรือในจุดที่เห็นได้ชัด

ส่วนการควบคุมการนำเข้า กระทรวงฯ ได้หารือร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง กรมศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ตรวจสอบตั้งแต่การขนย้ายน้ำมันปาล์ม การลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดน การลักลอบนำเข้าทางทะเล การขนย้ายผ่านแดน และการสำแดงพิกัดสินค้าเป็นอย่างอื่น เพื่อให้สามารถควบคุมติดตามน้ำมันปาล์มได้ทั้งระบบ


กำลังโหลดความคิดเห็น