“พาณิชย์” เตรียมคลอดทีโออาร์ประมูลข้าวเสียภายในสัปดาห์นี้ นำร่องหลักพันตัน แต่ไม่เกิน 1 หมื่นตัน ให้ยื่นแข่งราคาปลายเดือนนี้ มั่นใจไม่กระทบราคาข้าวในประเทศ เหตุให้ส่งเข้าภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น มั่นใจไม่มีหลุดรอดเข้าสู่ระบบบริโภค พร้อมโชว์ผลงาน 1 ปี ระบายข้าวในสต๊อกได้กว่า 5 ล้านตัน มูลค่า 5.23 หมื่นล้านบาท
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้กรมการค้าต่างประเทศจะออกประกาศหลักเกณฑ์การจำหน่ายข้าวสารสต๊อกของรัฐบาลในส่วนของข้าวเสีย โดยเบื้องต้น จะนำมาเปิดประมูลล็อตเล็กๆ ประมาณ 1-6 พันตัน แล้วแต่โกดัง แต่รวมทั้งหมดไม่เกิน 1 หมื่นตัน ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดต่างๆ เช่น นครสวรรค์ สุรินทร์ นครราชสีมา นครปฐม กำแพงเพชร และชลบุรี และหลังจากประกาศทีโออาร์แล้วก็จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้าไปตรวจสอบคุณภาพข้าว และให้ยื่นเสนอราคาประมูลภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
“การเปิดประมูลข้าวเสียในครั้งนี้เป็นการนำร่องประมูลล็อตเล็กๆ เพื่อทดลองตลาด โดยจะไม่กระทบต่อราคาข้าวในประเทศ เพราะเป็นข้าวคนละส่วนกัน ไม่เกี่ยวข้องกับข้าวในตลาดที่กำลังออกในขณะนี้ แล้วที่ใครว่าจะมีผลทางจิตวิทยาทำให้ราคาข้าวตก ขอบอกไม่เกี่ยวกันเลย อย่าเข้าใจผิด และที่สำคัญ ข้าวที่นำมาประมูล เป็นข้าวเสีย ต้องส่งเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น มีระบบการตรวจสอบติดตามชัดเจน มั่นใจว่าจะไม่มีหลุดรอดเข้าสู่ตลาดบริโภคปกติแน่นอน”
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้ออกประกาศกำหนดให้การขนย้ายข้าวเสียออกจากโกดัง ต้องมีการปิดผนึก และการขนส่ง ต้องมีใบอนุญาตขนย้าย รวมทั้งได้กำหนดให้มีระบบการติดตาม ตรวจสอบ สุ่มตรวจด้วย
น.ส.ชุติมากล่าวว่า สำหรับการบริหารจัดการข้าวในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ กระทรวงพาณิชย์สามารถระบายข้าวได้แล้วประมาณ 5 ล้านตัน มูลค่า 5.23 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการระบายโดยดูจังหวะเวลาและความเหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาข้าวในประเทศ และได้นำเงินรายได้ส่งคืนคลังหมดแล้ว เพื่อนำไปใช้หนี้สาธารณะที่กำหนดเพดานไว้ไม่ให้เกิน 5 แสนล้านบาท แต่ช่วงที่ คสช.เข้ามาได้กู้เพิ่มอีก 7 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายเป็นค่าจำนำข้าวให้ชาวนา ทำให้ขณะนี้ยังเหลือส่วนที่เกินอีกประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งได้ขอขยายระยะเวลาคืนหนี้ไปจนถึงเดือนกันยายน 2559 แล้ว
ส่วนข้าวที่คงเหลือในสต๊อกนั้น รัฐบาลมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการระบายได้หมดภายในปี 2560 ตามที่นายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ เพราะเดิมมีสต๊อกทั้งหมด 18.7 ล้านตัน ระบายไปได้แล้ว 5 ล้านตัน คงเหลือประมาณ 13.7 ล้านตัน ซึ่งในจำนวนนี้ มีทั้งข้าวที่ได้มาตรฐานและหย่อนมาตรฐาน ข้าวเกรดซี และข้าวเสีย
น.ส.ชุติมากล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีความไม่เข้าใจเกี่ยวกับการนำมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 มาใช้ในการบริหารจัดการข้าว โดยขอยืนยันว่าเป็นการนำมาใช้เพื่อให้ความคุ้มครองแก่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้วยความสุจริต ไม่ต้องรับผิดทางวินัย ทางแพ่งและทางอาญาในการดำเนินการด้วยความสุจริตยุติธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจในการทำงาน เพื่อให้การระบายสต๊อกข้าวเดินหน้าต่อไปได้ แต่หากในการระบายข้าวมีการพบว่าไม่สุจริตก็ยังสามารถฟ้องร้องได้ ไม่ได้ปิดกั้น
สำหรับการส่งออกข้าวล่าสุดจนถึงวันที่ 10 พ.ย. 2558 ไทยส่งออกข้าวได้แล้วประมาณ 8 ล้านตัน มูลค่า 3,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.27 แสนล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะทำได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10 ล้านตัน ส่วนปี 2559 ประเมินเบื้องต้น น่าจะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 9 ล้านตัน และในเร็วๆ นี้จะมีการเซ็นสัญญาขายข้าวให้แก่อินโดนีเซีย 5 แสนตัน เริ่มส่งมอบปลายปีนี้ และจะเซ็นสัญญาขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับจีน 1 ล้านตัน ซึ่งเป็นสัญญาใหม่ในวันที่ 19 ธ.ค. 2558 ส่วนสัญญาเดิม 1 ล้านตัน ได้ทยอยส่งมอบไปแล้ว 8 แสนตัน เหลืออีก 2 แสนตันก็จะครบ
