xs
xsm
sm
md
lg

“อาคม” พบประธาน ICAO รอบสอง แจงแผนหวังปลดธงแดง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
“อาคม” เผยบินแคนนาดา พบ “ประธาน ICAO” เป็นครั้งที่ 2 เพื่อรายงานความคืบหน้าแก้ปัญหาการบินตามแผนการแก้ไขข้อบกพร่อง มุ่งปลดล็อก SSC พร้อมอภิปรายในเวที ICAO World Aviation Forum ยันไทยเข้มงวดมาตรฐานการบิน เรียกความเชื่อมั่น เผยนโยบายรัฐบาลผลักดันการพัฒนาฟรีโซน, พัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานและพัฒนาอุตฯ ต่อเนื่องการบิน สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการเดินทางไปร่วมประชุมนานาชาติ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) หรือ ICAO International World Aviation Forum ที่ประเทศแคนาดา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้มีโอกาสเข้าพบกับประธาน ICAO ถือเป็นครั้งที่ 2 หลังจาก ICAO ได้พบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concern : SSC) โดยได้รายงานความก้าวหน้าในการแก้ปัญหา ตามแผนการแก้ไขข้อบกพร่อง (Corrective Action Plan : CAP) ในส่วนของการปรับปรุงโครงการกรมการบินพลเรือน (บพ.) ออกเป็นกรมท่าอากาศยาน (ทย.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และหน่วยงานสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานและหน่วยงานช่วยเหลืออุบัติเหตุอากาศยาน โดยได้ขอให้ทาง ICAO ส่งที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยในการจัดตั้งหน่วยงานสอบสวนและช่วยเหลืออุบัติเหตุอากาศยานและปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ ในเรื่องการปรับปรุงกฎหมาย การเดินอากาศเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ICAO

พร้อมกันนี้ได้รายงานถึงความก้าวหน้าในการตรวจสอบของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration : FAA) และสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป หรือเอียซ่า (EASA) อย่างไรก็ตาม ประธาน ICAO ขอให้ไทยทำงานร่วมกับทำงานของ ICAO ที่สำนักงานในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และบอกว่าไม่เคยเห็นผู้นำประเทศไหนให้สำคัญกับเรื่องนี้เหมือนไทยที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเดินทางไปพบประธาน ICAO

นายอาคมกล่าวว่า ตนได้กล่าวในการอภิปรายกลุ่ม ICAO International World Aviation Forum ว่า แม้ประเทศไทยจะติดธงแดง แต่ได้มีการปรับปรุงขั้นตอน การออกใบรับรอง ใบอนุญาต ซึ่งไทยให้ความสำคัญกับ การเข้มงวดมาตรฐานการบินเพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางที่ปลอดภัยจะสร้างโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยซึ่งมีการคาดหมายว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจำนวนการเดินทางโดยเครื่องบินสูงถึง 1,000 ล้านคนต่อปี โดยในเอเชียจะมีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวสูง โดยในเอเชียแปซิฟิก มีคำสั่งซื้อเครื่องบินในสัดส่วน 36% ของคำสั่งซื้อทั่วโลก

ทั้งนี้ นโยบายของรัฐบาลไทยที่สนับสนุนอุตสาหกรรมการบินมี 3 เรื่องหลัก คือ 1. การพัฒนาฟรีโซนของสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มขีดความสามารถ โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จะร่วมมือกับบริษัทลอจิสติกส์ในภูมิภาค 2. การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมการบินที่สนามบินอู่ตะเภา โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า สนใจที่จะร่วมทุนกับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานที่อู่ตะเภา ซึ่งจะเสริมศักยภาพให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคได้ 3. การสร้างอุตสาหกรรมมูลค่าเพิ่มในสนามบินหรือ Value Added Service โดยการนำสินค้าเกษตร พืชผักผลไม้มาสร้างมูลค่าเพิ่ม จากการบรรจุภัณฑ์หรือการบรรจุหีบห่อ (Packaging) ที่ตรงกับความต้องการของตลาดยุโรป
กำลังโหลดความคิดเห็น