xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการ-ภาคปศุสัตว์ห่วงTPP หวั่นเกษตรกรเจ๊ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ภาคปศุสัตว์-นักวิชาการ ห่วงเกษตรกรได้รับผลกระทบ TPP ด้านก.พาณิชย์ เผยกรมเจรจาการค้าฯ อยู่ระหว่างการจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาผลกระทบของความตกลง TPP โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2559

นายสุเทพ วงศ์รื่น นายกสมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวในงานเสวนา”TPPกับผลกระทบภาคเกษตร-ปศุสัตว์ไทย...ควรหรือไม่ควรเข้าร่วม”วันที่ 20 พ.ย.ว่า สมาคมฯ ตระหนักถึงผลกระทบของความตกลงการค้าเสรี TPP (Trans Pacific Partnership) ในมิติต่างๆ แม้ว่าประเทศไทยยังไม่ได้เข้าร่วมอยู่ในข้อตกลง โดยภาคเกษตร-ปศุสัตว์ มีความกังวลเกี่ยวกับท่าทีของไทยในการพิจารณาเข้าร่วมเป็นสมาชิกในอนาคต เพราะอาจจะทำให้ภาคปศุสัตว์ทั้งหมูและไก่รวมถึงเกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวโพดและถั่วเหลืองสำหรับผลิตอาหารสัตว์ ที่มีจำนวนรวมกันกว่า 700,000 ครัวเรือนต้องล้มละลาย ส่งผลต่อแรงงานภาคเกษตรที่ต้องขาดรายได้ เพราะไม่สามารถแข่งขันกับสหรัฐที่เป็นผู้ผลิตปศุสัตว์รายใหญ่ของโลก และจะการผลักดันเนื้อหมูและชิ้นส่วน รวมถึงเนื้อไก่และชิ้นส่วนที่ไม่เป็นที่ต้องการของชาวอเมริกันเข้ามาขายในประเทศสมาชิก TPP อย่างแน่นอน

ที่ผ่านมามีตัวอย่างเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู-เลี้ยงไก่ของเวียดนามและฟิลิปปินส์ ที่ต้องล้มละลายไปเพราะได้รับผลกระทบจากการทุ่มตลาดของเศษเหลือจากการบริโภค (by product) ทั้งหมูและไก่จากสหรัฐฯ หากอนาคตไทยตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่ม TPP จริง เชื่อแน่ว่าผลผลิตด้านปศุสัตว์ของสหรัฐฯ ต้องทะลักเข้ามาในไทย จนกระทบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรที่มีกว่า 191,545 ครัวเรือน รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ปู่-ย่าพันธุ์ พ่อ-แม่พันธุ์ และเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อรวม 5,308 ครัวเรือน และหากไม่มีผู้เลี้ยงสัตว์เหล่านี้ ก็จะไม่มีตลาดรองผลผลิตพืชอาหารสัตว์ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดมากกว่า 471,824 ครัวเรือน และเกษตรกรผู้เพาะปลูกถั่วเหลืองจำนวน 31,381 ครัวเรือน

นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า สมาคมฯ ไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมกลุ่ม TPP เนื่องจากมีความกังวลว่า สหรัฐจะผลักดันเนื้อหมูและชิ้นส่วนหมูที่ไม่เป็นที่ต้องการของชาวอเมริกัน เช่น เครื่องใน หัว ขา และหนังหมู เข้ามาดั๊มป์ตลาดในไทย ที่จะสร้างความเสียหายให้กับผู้เลี้ยงหมูไทย และภาคเกษตรที่เกี่ยวข้อง

นายคึกฤทธิ์ อารีปกรณ์ ผู้จัดการสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวว่า เกษตรกรไทยมีความสามารถในการผลิตสินค้าปศุสัตว์ ได้อย่างเพียงพอต่อการบริโภคของคนไทย และยังเป็นประเทศผู้ส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ได้เป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากบราซิล สหรัฐ อียู ในด้านการตลาดยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องประมาณร้อยละ 5-10 ต่อปี อีกทั้งไทยยังมีกรอบเจรจาการค้าอาเซียนบวก ASEAN+6 หรือ RCEP ที่อยู่ระหว่างทำข้อตกลงอยู่แล้ว จึงเป็นตลาดที่สดใสสำหรับไก่เนื้อไทย
ดังนั้น ต้องมีการศึกษา TPP ที่มีสหรัฐฯเป็นแกนนำให้ดี เนื่องจากสหรัฐฯมีต้นทุนการเลี้ยงไก่ที่ต่ำกว่าไทย หากเป็นสมาชิกแล้วการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ก็จะสามารถดำเนินการได้โดยเสรี จะทำให้มีสินค้านำเข้ามาตีตลาดสินค้าไทย จนเกิดปัญหาสินค้าล้นตลาด และเกิดความเสียหายต่อภาคปศุสัตว์ทั้งระบบ

"ปัจจุบันไทยกำหนดภาษีนำเข้าเนื้อไก่อยู่ที่อัตราร้อยละ 30 เป็นมาตรการคุ้มครองเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ หากเข้าร่วมกลุ่ม TPP ในอนาคต และสินค้า by product ราคาถูกจากสหรัฐฯ เข้ามาดั๊มป์ราคาในประเทศโดยที่ไทยยังไม่มีมาตรการอื่นมารองรับ ก็จะทำให้ราคาสินค้าปศุสัตว์ของไทยตกต่ำ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่และเกษตรกรในภาคปศุสัตว์ทั้งระบบ ต้องขาดทุนและเป็นหนี้สิ้น เนื่องจากมีการลงทุนไปแล้ว จนต้องเลิกกิจการไปเหมือนเกษตรกรประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ" นายคึกฤทธิ์ กล่าว



รศ.ดร.ประภัสสร์ เทพชาตรี ผอ.ศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากเน้นย้ำคือ TPP ไม่ใช่แค่เรื่อง FTA ไม่ใช่แค่เรื่องการค้า แต่เป็นเกมส์การเมืองรูปแบบใหม่ จริงอยู่ที่ TPP อาจส่งผลดีตามหลักรัฐศาสตร์ คือจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐดีขึ้น แต่ต้องไม่ลืมดูผลเสียที่จะเกิดขึ้น ทั้งผลเสียตามหลักรัฐศาสตร์ โดย TPP จะทำให้สหรัฐฯ สามารถครองความเป็นเจ้า ทำให้เอเชียตะวันออกรวมกลุ่มกันไม่สำเร็จ และจะกระทบต่อ FTA ที่ไทยมีอยู่แล้ว อาทิ RCEP นอกจากนี้ ยังเป็นการลดบทบาทของอาเซียน และจะทำให้เอเปคมีบทบาทมากขึ้น

ขณะที่ น.ส.พุทธชาติ วงษ์มงคล นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการดำเนินการของไทยต่อความตกลง TPP ในขณะนี้ว่า ทางกรมเจรจาการค้าฯ อยู่ระหว่างการจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาผลกระทบของความตกลง TPP โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2559 นอกจากนี้ ในช่วง 1-2 ปี ของการดำเนินกระบวนการภายในของสมาชิก TPP เพื่อให้ความตกลงมีผลบังคับใช้ ไทยควรมีการศึกษาข้อบทในเชิงลึกเมื่อมีการเผยแพร่ข้อบท (text) ของความตกลง ซึ่งจะทำให้ทราบว่าไทยควรหรือไม่ควรเข้าร่วมกลุ่มความตกลงดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น