xs
xsm
sm
md
lg

THE จ่อเพิ่มทุน-หาพันธมิตรถือหุ้น บ.ลูก ลั่น Q1/59 พลิกมีกำไรเหตุราคาเหล็กขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“เดอะ สตีล” จ่อเพิ่มทุนเพื่อระดมเงินมาเพิ่มทุนในบริษัทลูก 3 พันล้านบาท พร้อมเปิดทางให้พันธมิตรใหม่ถือหุ้นใหญ่ในเดอะ สยามเพาเวอร์ (TSB) ด้วย มั่นใจไตรมาส 1/59 เดอะ สตีล พลิกกลับมามีกำไรอีกครั้ง เหตุราคาเหล็กผ่านจุดต่ำสุด ความต้องการใช้เพิ่มขึ้น และรับรู้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้า

นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ สตีล จำกัด (มหาชน) (THE) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้บริษัท เดอะ สยาม เพาเวอร์ จำกัด (TSP) บริษัทในเครือฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 5 แสนบาท เป็น 3 พันล้านบาท เพื่อซื้อกิจการไฟฟ้าและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง 4 บริษัท เป็นเงิน 700 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เพิ่มสภาพคล่องและคืนหนี้ให้กับบริษัท สยามเพาเวอร์ เจนเนอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SIPCO) นั้น ทางบริษัทจะเพิ่มทุนโดยใช้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มทุนไปก่อนตามสัดส่วนการถือหุ้นเป็นเงิน 2.1 พันล้านบาท

โดยบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการหาแหล่งเงินที่คุ้มค่าที่สุด โดยเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อกู้เงิน รวมทั้งศึกษาแนวทางจะเพิ่มทุนจดทะเบียนใน บมจ.เดอะ สตีล รวมทั้งหาพันธมิตรใหม่เพื่อถือหุ้นในบริษัทเดอะ สยามเพาเวอร์ด้วย ขณะนี้ได้เจรจากับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าทั้งไทยและต่างประเทศจำนวน 4-5 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 1/2559 โดยบริษัทฯ เปิดทางให้พันธมิตรใหม่ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทในเครือเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจไฟฟ้ามากกว่า

ปัจจุบันทาง SIPCO มีภาระหนี้สินรวม 9 พันล้านบาท บริษัทได้มีการเจรจาลดหนี้จนเหลือ 1.4 พันล้านบาท แต่ก็ยังมีหนี้ที่เหลือส่วนหนึ่ง ดังนั้น เงินเพิ่มทุนTSP นอกจากใช้ซื้อกิจการยังใช้ชำระหนี้ให้แก่ SIPCO ด้วย โดยขณะนี้ก็ได้มีการเจรจากับบริษัทไฟฟ้าไทยหลายราย รวมทั้งจีนอีก 1 รายที่สนใจเข้ามาเป็นพันธมิตรด้วย เนื่องจาก SIPCO ดำเนินธุรกิจไฟฟ้า SPP 160 เมกะวัตต์ และบริษัท สยามเพาเวอร์ โครงการ 2 จำกัด ยังมีใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า SPP ขนาด 120 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟให้การไฟฟ้า 90 เมกะวัตต์ที่จะต้องจ่ายไฟเข้าระบบในเดือน 1 ก.ค. 2561 ทำให้บริษัทต้องเร่งสรุปพาร์ตเนอร์ให้ได้ภายในไตรมาส 1/2559 เพื่อเร่งก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP ใหม่

นายบุญชัยกล่าวว่า การเพิ่มทุนในบริษัทเดอะ สยามเพาเวอร์ในครั้งนี้จะเข้าซื้อกิจการไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง 4 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท สยามเพาเวอร์ เจนเนอเรชั่น ในสัดส่วน 98.4% บริษัทสยามเพาเวอร์ โครงการ 2 จำกัด ถือหุ้น 100% บริษัท สยามไอซ์ ถือหุ้น 100% และบริษัท สยามไพน์แอปเปิ้ล ฟีด จำกัด ถือหุ้น 100% คาดว่าขบวนการซื้อกิจการดังกล่าวจะเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ ส่วนการโอนเงินและหุ้นจำเป็นต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเดอะ สตีลเพื่อเพิ่มทุนในบริษัท TSP ในวันที่ 9 ม.ค. 2559 ก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานเดอะ สตีล ในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้กลับไปอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่มีรายได้ลดลงมาเหลือ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปีหน้าจะรับรู้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้า 120 เมกะวัตต์ เดือนละ 300-400 ล้านบาท และราคาเหล็กน่าจะผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ทำให้แนวโน้มราคาเหล็กจะขยับขึ้นเล็กน้อยและการใช้เหล็กที่เพิ่มขึ้นจากโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ ทำให้บริษัทฯจะกลับมามีกำไรสุทธิอีกครั้งในไตรมาส 1/2559 จากงวด 9 เดือนแรกปีนี้บริษัทฯขาดทุนสุทธิ 137.3 ล้านบาท

ทั้งนี้ สยามเพาเวอร์ เจนเนอเรชั่น เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าระบบโคเจเนอเรชั่นที่ใช้ก๊าซฯ กำลังการผลิต 160 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาขายไฟให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 90 เมกะวัตต์ เป็นเวลา 25ปี โดยจ่ายไฟไปแล้วตั้งแต่ ธ.ค. 2553 นอกจากนี้ยังขายไฟให้แก่ บมจ.จีสตีล 30 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างเจรจาทำสัญญาขายไฟให้บริษัท สยามบิลเล็ตอีก 40 เมกะวัตต์ด้วย ซึ่งเมื่อโรงไฟฟ้าดังกล่าวเดินเครื่องเต็มที่ก็มีแผนจะขยายกำลังการผลิตเฟสที่ 2 อีก 120 เมกะวัตต์
กำลังโหลดความคิดเห็น