xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” โต้สมาคมเหล็กฯ ยันไม่เคยดึงเรื่องพิจารณาใช้มาตรการเอดี ตอบโต้เหล็กนอกทุ่มตลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” โต้เอกชน ยันไม่เคยดึงเรื่องใช้มาตรการเอดีตอบโต้เหล็กนอกเข้ามาทุ่มตลาด สอนมวยอยากให้เดินเรื่องได้เร็ว ข้อมูลต้องชัด หลักฐานต้องแน่น ไม่ใช่ชักเข้าชักออก ทำให้ภาครัฐดำเนินการต่อไม่ได้

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับการกล่าวหาจากสมาคมการค้าผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี ว่า การพิจารณาเพื่อเปิดไต่สวนการทุ่มตลาด (เอดี) สินค้าเหล็กแผ่นเคลือนสังกะสีจากต่างประเทศไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆ ที่มีข้อมูลการทุ่มตลาดอย่างชัดเจน ซึ่งกรมฯ ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะกรมฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอน ตั้งแต่การรับคำขอเพื่อให้เปิดการไต่ส่วนการทุ่มตลาด การพิจารณาเอกสารหลักฐาน ราคานำเข้า ปริมาณนำเข้า และประเทศที่ส่งสินค้าเข้ามาทุ่มตลาด แต่เป็นเพราะภาคเอกชนส่งข้อมูลไม่ชัดเจน ไม่ครบถ้วน และมีการขอปรับแก้ไขข้อมูลหลายครั้ง ทำให้การดำเนินการต้องล่าช้าออกไป

ทั้งนี้ สมาคมฯ ดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย บริษัท กรุงเทพผลิตเหล็ก จำกัด (มหาชน) บริษัท ราชสีมาผลิตเหล็ก จำกัด บริษัท สังกะสีไทย จำกัด บริษัท เคทีซีโฮม จำกัด บริษัท ประมวลสินสตีล จำกัด บริษัท เจเอฟอี สตีล กัลวาไนซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท นิปปอนสตีล แอนด์ ซูมิคิน กัลวาไนซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ดองบูไทยสตีล จำกัด ได้ยื่นเรื่องขอให้กรมฯ เปิดไต่สวนการทุ่มตลาดตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.2558 และระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆ ที่มีข้อมูลการทุ่มตลาดชัดเจน

“กรมฯ ขอยืนยันว่า มีการพิจารณา และทำตามระเบียบกฎหมายทุกขั้นตอน เพราะหากเอกสารหลักฐานครบถ้วนก็จะมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการที่จะดูว่ามีการทุ่มตลาดหรือไม่ ถ้ามีก็จะส่งให้คณะกรรมการพิจารณามาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน พิจารณาว่าจะเปิดไต่สวนหรือไม่ต่อไป แต่ที่ล่าช้าเป็นเพราะภาคเอกชนที่ไม่ความชัดเจน มีการชักเข้าชักออก จนทำให้ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะนำไปสู่การพิจารณาได้” นายอดุลย์ กล่าว

นายอดุลย์ กล่าวว่า ตั้งแต่รับเรื่องเมื่อวันที่ 16 ก.พ.2558 จากนั้นกรมฯ ได้มีการพิจารณาหลักฐานร่วมกับบริษัทพบว่า ตัวเลขความเสียหาย ปริมาณการนำเข้าไม่ชัดเจน ต่อมา วันที่ 2 มี.ค.2558 สมาคมฯ ได้มาขอเอกสารคืนเพื่อขอเปลี่ยนคำร้องขอเปิดไต่สวนใหม่ และวันที่ 24 มี.ค.2558 ได้ขอถอดประเทศที่ยื่นฟ้องทุ่มตลาดบางประเทศออก ซึ่งกรมฯ ได้ประสานไปยังสมาคมฯ อีกครั้งในวันที่ 24 และ 29 เม.ย.2558 ขอให้ปรับข้อมูลใหม่ ทำตัวเลขให้ชัดเจน รวมถึงประเทศที่ทุ่มตลาด และให้ส่งกลับวันที่ 19 พ.ค.2558 แต่ก็ไม่ส่ง และยังได้ขอตัดประเทศที่ฟ้องทุ่มตลาดออกอีก และขอเลื่อนส่งหลักฐานเป็น 26 พ.ค.2558 ต่อมา วันที่ 29 พ.ค.2558 ยังขอปรับลดประเทศที่ฟ้องทุ่มตลาดลงอีก กรมฯ จึงได้ประชุมร่วมกับบริษัทต่างๆ และให้ส่งรายละเอียด หลักฐานทั้งหมดอีกครั้งภายในวันที่ 10 ส.ค.2558 ซึ่งก็ขอเลื่อนเป็นวันที่ 17 ส.ค.2558 และได้ส่งเพียงร่างคำขอ และส่งเอกสารหลักฐานให้บางส่วน บอกว่าที่เหลือจะส่งให้วันที่ 31 ส.ค.2558 โดยระหว่างนี้ ยังได้ขอเพิ่มประเทศที่จะฟ้องทุ่มตลาดเข้ามาอีก

จากนั้น วันที่ 1 ก.ย.2558 กรมฯ ได้พิจารณาคำขอ และหลักฐานแล้วเห็นว่ายังไม่ครบ จึงได้มีหนังสือแจ้งสมาคมฯ บอกถึงข้อบกพร่อง และขอให้เพิ่มรายละเอียดหลักฐานต่างๆ ให้ครบ พอมาวันที่ 2 ก.ย.2558 ได้ขอคืนร่างคำขอ และเอกสารทั้งหมด ระบุว่า จะนำไปคัดแยกเอกสารที่เหมาะสมเพื่อนำมายื่นใหม่ จนวันที่ 9 ก.ย.2558 ได้นำส่งร่างคำขอ และส่งเอกสารครบวันที่ 14 ก.ย.2558 ซึ่งกรมฯ ได้ตรวจคำขอ และประชุมร่วมกับบริษัทอีกครั้งวันที่ 5 ต.ค.2558 พบข้อมูลไม่ชัดเจน ให้ส่งรายละเอียดเพิ่มเติม จนเมื่อวันที่ 26 ต.ค.2558 ที่ผ่านมา ก็ส่งเพิ่มแต่ก็ยังไม่ครบถ้วนอีก ซึ่งจะเห็นได้ว่า กรมฯ ไม่ได้มีการถ่วงเวลา หรือประวิงเวลาแต่อย่างใด มีแต่ให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนมาโดยตลอด แต่จะให้ดำเนินการในทันทีเลยคงไม่ได้เพราะในเมื่อเอกสารหลักฐานไม่ชัดเจน



กำลังโหลดความคิดเห็น