xs
xsm
sm
md
lg

ร้องพ.ณ.ทบทวนเก็บภาษีเหล็ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ทาทา สตีลฯจ่อพบพาณิชย์ จี้ทบทวนอัตราเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดเหล็กลวดคาร์บอนสูงจากจีน ที่เคยเก็บอยู่ 5.17-33.98% หลังพบว่าการนำเข้าเหล็กลวดฯจีนยังสูง ทำให้ผู้ผลิตเหล็กในประเทศต้องลดปริมาณการผลิตลงไปอีก ส่วนเหล็กลวดคาร์บอนต่ำอยู่ระหว่างการพิจารณาประกาศจัดเก็บภาษีAD เหล็กนำเข้าจากจีนต่อไปหวั่นลดค่าเงินหยวนยิ่งซ้ำเติมผู้ผลิตเหล็กไทย

นายทรงศักดิ์ ปิยะวรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาดและการขาย บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย )จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นหนังสือต่อกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอให้พิจารณาของให้ปรับขึ้นอัตราภาษีการตอบโต้การทุ่มตลาด(เอดี) เหล็กลวดคาร์บอนสูง รวมถึงเหล็กลวดคาร์บอนสูงที่เจือธาตุอื่นจากประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันจัดเก็บอยู่ในอัตรา 5.17 -33.98 %ของราคาซี ไอ เอฟ เนื่องจากพบว่าอัตราภาษีที่เรียกเก็บนี้ไม่มีผล ทำให้การนำเข้าเหล็กลวดคาร์บอนสูงจากจีนลดลง

อีกทั้ง ปริมาณการผลิตเหล็กลวดคาร์บอนสูงในประเทศกลับลดลงต่ำกว่าก่อนที่จะมีการจัดเก็บภาษีการทุ่มตลาดเสียอีก โดยปัจจุบัน บริษัทฯมีการผลิตเหล็กลวดคาร์บอนสูงลดลงเหลือ 2 พันตัน/เดือน เมื่อเทียบจากช่วงที่จีนเข้ามาทุ่มตลาดเหล็กลวดคาร์บอนสูงมีการผลิตอยู่ 5-6 พันตัน/ปีซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำมากอยู่แล้วเมื่อเปรียบเทียบก่อนที่จีนจะเข้าทุ่มตลาดบริษัทฯเคยผลิตอยู่1. 2 หมื่นตัน/เดือน

"กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดเหล็กลวดคาร์บอนสูงจากจีน อัตรา 5-33% ซึ่งแทนที่ปริมาณการผลิตเหล็กลวดคาร์บอนสูงในประเทศจะเพิ่มขึ้น ปรากฏว่าการผลิตเหล็กลวดคาร์บอนสูงกลับลดลงอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดผลิตอยู่แค่เดือนละ 2 พันตัน/เท่านั้น ดังนั้นบริษัทเตรียมพบรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนอัตราการจัดเก็บภาษีการตอบโต้การทุ่มตลาดใหม่อีกครั้งในเร็วๆนี้"

นายทรงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ยื่นขอให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาจัดเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดเหล็กลวดคาร์บอนต่ำและเหล็กลวดคาร์บอนต่ำเจือธาตุอื่นจากจีนด้วยเช่นกัน ซึ่งได้การดำเนินการไต่สวนไปแล้ว คาดว่ารัฐบาลจะประกาศเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดเหล็กลวดคาร์บอนต่ำจากจีนได้เร็วๆนี้ ก่อนที่ผู้ผลิตเหล็กฯในประเทศจะต้องปิดตัวไป ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีการผลิตเหล็กลวดคาร์บอนต่ำในปริมาณที่ลดลงเหลือเพียง 6 พันตัน/เดือน ลดลง 50%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ เพราะการส่งออกเหล็กได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลจีน รวมทั้งการผสมเจือธาตุในเหล็กลวดฯทำให้จีนได้รับยกเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้าอีก 5% ทำให้เหล็กลวดคาร์บอนต่ำจากจีนมีราคาถูกว่าเหล็กลวดฯในประเทศถึง 3 พันบาท/ตัน

นอกจากนี้ การปรับลดค่าเงินหยวนจากจีนจะยิ่งทำให้ราคาเหล็กจากจีนถูกลงไปอีกทำให้การส่งออกเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันเหล็กจีนได้ทะลักเข้ามาในภูมิภาคนี้มากอยู่แล้ว อาทิ อินโดนีเซียมีการนำเข้าเหล็กจากจีนเพิ่ม 46% มาเลเซีย 71% ฟิลิปปินส์ 45% ไทย 32% เวียดนาม 68%

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 57 คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุนได้มีมติพิจารณาให้ออกประกาศ การตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กลวดคาร์บอนสูง รวมถึงเหล็กลวดคาร์บอนสูงที่เจือธาตุอื่นที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ 12 พ.ค. 57 เป็นต้นไป ตามคำร้องของบริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หลังจากพิสูจน์ได้ว่าการนำเข้าเหล็กดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ตาม พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542

โดยให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (ภาษีเอดี) จากการนำเข้าสินค้าเหล็กลวดคาร์บอนสูง รวมถึงเหล็กลวดคาร์บอนสูงที่เจือธาตุจากจีน ในอัตราดังนี้ 1. อัตรา 5.17% ของราคาซี ไอ เอฟ สำหรับสินค้าที่ผลิตจาก Zhangjiagang Shajing Steel Co., Ltd. และ Zhangjiagang Hongxing High Wire Co., Ltd. และส่งออกโดย Jiangsu Shagang International Trade Co., Ltd.

2. อัตรา 10.38% ของราคาซี ไอ เอฟ สำหรับสินค้าที่ผลิตและส่งออกจาก Qingdao Iron & Steel Co., Ltd. 3.อัตรา 5.78% ของราคาซี ไอ เอฟ สำหรับสินค้าที่ผลิตจาก Benxi Beiying Iron and Steel Group Co., Ltd. และส่งออกโดย Benxi Beiying Iron and Steel Group Imp. And Exp. Corp. Ltd. และ 4. อัตรา 33.98% ของราคาซี ไอ เอฟ สำหรับสินค้าที่ผลิตหรือส่งออกจากรายอื่น
กำลังโหลดความคิดเห็น