นักวิเคราะห์คาดทิศทาง SET Index สัปดาห์หน้าแกว่ง Sideway แนะจับตาราคาน้ำมันโลก และต้องรอดูนโบายเศรษฐกิจ ครม.ชุดใหม่ ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นไทยเจอหลายปัจจัยลบกดดัน ส่งผลต่างชาติเทขายหุ้นไทยหนักถึง 1.7 หมื่นล้าน ด้านรวงข้าวแนะเกาะติดเงินทุนเคลื่อนย้าย
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (24-28 ส.ค.) โดยคาดว่า ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวขึ้น และลงได้ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนอยู่
โดยหนึ่งในปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การแกว่งตัวของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มปรับตัวลงค่อนข้างมาก เนื่องจากปริมาณน้ำมันสำรองมีจำนวนมาก ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง และมีผลกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มหลักที่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย โดยในสัปดาห์หน้ายังคงต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ และปริมาณน้ำมันสำรองอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของจีน และการประกาศจีดีพีของยุโรป และสหรัฐฯ รอบที่ 2 ในสัปดาห์หน้า ส่วนปัจจัยในประเทศยังต้องรอดูนโบายเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วย พร้อมให้แนวต้าน 1,380 จุด แนวรับ 1,350 จุด
ขณะที่ บล.กสิกรไทย จำกัด มองว่าดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้ามีแนวต้านที่ 1,375 และ 1,390 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,350 และ 1,320 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคงได้แก่สถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้ายในเอเชีย
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานออกมา เช่น จีดีพีไตรมาส 2/2558 (Second Est) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และรายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการรายงานข้อมูลจีดีพีของเยอรมนี รวมทั้งข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น
สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงจากเหตุวางระเบิดในกรุงเทพฯ และความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชีย โดยขยับมาปิดที่ระดับ 1,365.61 จุด ลดลง 3.42% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 30.65% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ระดับ 49,777.29 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ระดับ 576.42 จุด ลดลง 2.34% จากสัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงต่อเนื่องเกือบตลอดสัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับลดค่าเงินหยวนของจีน ความกังวลจากเหตุวางระเบิดในกรุงเทพฯ ก่อนที่ดัชนีจะฟื้นขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ จากมุมมองเชิงบวกต่อการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)
อย่างไรก็ตาม ดัชนีปรับลงต่อช่วงท้ายสัปดาห์ตามการร่วงลงของหุ้นพลังงาน และความกังวลต่อเศรษฐกิจประเทศในเอเชีย ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท