xs
xsm
sm
md
lg

“ฉัตรชัย” จ่อถกจีน วอนเลิกอุดหนุนผลิตและส่งออกเหล็ก หลังทำอุตฯ เหล็กไทยกระทบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ฉัตรชัย” เตรียมถกจีนยกเลิกอุดหนุนการผลิตและส่งออกเหล็กเพื่อลดผลกระทบถูกเหล็กจีนเข้ามาตีตลาด ยันหากพบการทุ่มตลาดงัดมาตรการเอดีจัดการทันที พร้อมประสานศุลกากรเข้มงวดนำเข้า ขอ สมอ.ทบทวนมาตรฐานเหล็ก และขอให้อุตสาหกรรมบีโอไอทำแผนส่งเสริมตั้งโรงงานเหล็กต้นน้ำในไทย

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กอย่างยั่งยืนว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมที่จะหารือกับรัฐบาลจีนเพื่อผลักดันให้จีนลดการอุดหนุนการผลิตและการส่งออกเหล็กและผลิตภัณฑ์มายังประเทศไทย เพื่อป้องกันปัญหาการขายในราคาต่ำจนกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาไทยได้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือกับจีนไปแล้ว และจะมีการหารืออีกครั้งในการประชุมความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีนในช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจีนได้ยกเลิกมาตรการคืนภาษีส่งออกสำหรับสินค้าเหล็กเจือโบรอนบางรายการแล้ว คิดเป็น 50% ของรายการสินค้าทั้งหมดที่จีนส่งออกมายังตลาดอาเซียน แต่ไทยต้องการให้มีการยกเลิกการอุดหนุนทั้งหมด เพราะการที่จีนส่งสินค้าเหล็กที่ผลิตเกินความต้องการใช้ไปยังตลาดต่างประเทศได้ส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งไทย ซึ่งพบว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไทยมีการนำเข้าเหล็กปริมาณ 7 ล้านตัน แต่ปีก่อนมีการนำเข้ามากถึง 12 ล้านตัน และในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้มีการนำเข้ามาแล้ว 5 ล้านตัน

อย่างไรก็ตาม ในการป้องกันการนำเข้าเหล็กที่ส่งออกเข้ามาทุ่มตลาดและกระทบต่อผู้ผลิตภายในประเทศ ต่อไปกระทรวงฯ จะพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) อย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้ได้มีการใช้มาตรการเอดีกับเหล็กที่นำเข้าจากจีนหลายรายการแล้ว

นอกจากนี้ ยังขอให้กรมศุลกากรเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าเหล็กขณะนำเข้า และเพิ่มบทลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดฐานหลบเลี่ยงมาตรการทางการค้า และขอให้สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) เดินหน้าทบทวนมาตรฐานของสินค้าเหล็กและผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าในปัจจุบัน

พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า สำหรับการติดตามสถานการณ์ราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์ในประเทศ ได้กำหนดให้เหล็กเส้น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ เหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กกล้าแผ่นไร้สนิมรีดร้อน และเหล็กแผ่นรีดเย็น เป็นสินค้าอ่อนไหว ซึ่งจะมีการติดตามราคาและสถานการณ์ทางการค้าอย่างใกล้ชิดเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาสและปรับขึ้นราคาโดยไม่สมเหตุสมผล

ส่วนการวางรากฐานให้กับอุตสาหกรรมในระยะยาว ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งศึกษาและพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งโรงงานเหล็กต้นน้ำในไทยหรือในประเทศเพื่อนบ้าน และให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กำหนดแนวทางและจัดทำแผนงานเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งโรงงานเหล็กต้นน้ำให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขณะเดียวกัน ให้เร่งสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานของเหล็กไทย โดยผลักดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ที่ตั้งฐานการผลิตในไทยยินยอมให้ความร่วมมือทดสอบคุณภาพสินค้าเหล็กของไทย

นายทรงวุฒิ ไกรภัสสรีพงษ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้จีนมีการผลิตเหล็กได้เป็นจำนวนมาก และต้องการที่จะผลักดันการส่งออกให้ได้มากที่สุด โดยไม่มีเกณฑ์ต้นทุนที่ชัดเจน ทำให้เกิดผลกระทบต่อหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ ยุโรป ตะวันออกกลาง และไทยเอง หรือพูดง่ายๆ ทั่วโลกได้รับผลกระทบทั้งหมด ซึ่งแนวทางแก้ไขจะต้องใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด และต้องเร่งสร้างมาตรฐานสินค้าในประเทศให้สูงขึ้น เพราะที่ผ่านมา พบว่าสินค้านำเข้าจากจีนมีมาตรฐานที่ด้อยกว่า และไม่ปลอดภัยในการใช้งาน


กำลังโหลดความคิดเห็น