กรมทางหลวงชนบทเผยเร่งประมูลก่อสร้างงานใหม่ของงบปี 59 ตั้งแต่ ก.ย.นี้เพื่อเร่งรัดเบิกจ่ายงบที่ได้รับกว่า 4.67 หมื่นล้าน ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้ให้ได้ 15-20% รวมกับงบกระตุ้นเศรษฐกิจเดิม 1.45 หมื่นล้านที่จะเซ็นสัญญาครบกลาง ก.ย.นี้ มั่นใจอัดเม็ดเงินเข้าระบบกระตุ้นเศรษฐกิจกระจายทั่วประเทศตามเป้ารัฐบาล ขณะที่ไม่ได้งบกลางซ่อมถนนคันครองทรุด 14 กม. เตรียมเสนอขอใช้งบเหลือจ่ายแทน
นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ทช.ได้เริ่มดำเนินการประกวดราคาก่อสร้างโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2559 วงเงิน 46,750 ล้านบาทแล้วตั้งแต่เดือน ก.ย. 2558 ซึ่งได้ตัวผู้รับจ้างแล้วประมาณ 80% และจะทยอยลงนามสัญญาได้มากกว่า 50% ภายในไตรมาสที่ 1/2559 (ต.ค.-ธ.ค. 58) ซึ่งจะทำให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ราว 15-20% โดยเม็ดเงินกระจายไปทุกพื้นที่ กระจายไปยังผู้ประกอบการทั้งขนาดกลางและขนาดเล็กจะทำให้เกิดการสร้างงาน การจัดซื้อวัสดุก่อสร้างกระจายไปทั่วประเทศ สนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนนี้
ส่วนโครงการตามงบกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 14,500 ล้านบาท จำนวน 1,761 โครงการซึ่งได้ดำเนินการประกวดราคาเสร็จแล้ว 100% และทยอยลงนามสัญญาไปแล้ว 90% โดยคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ครบทุกสัญญาภายในกลางเดือน ก.ย.นี้ โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็ก มูลค่าประมาณ 5-15 ล้านบาทต่อสัญญา ซึ่งได้วางแผนการเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ 90% ภายในเดือน ธ.ค. 2558 ส่วนที่เหลือ เช่น งานก่อสร้างสะพานนั้นจะเบิกจ่ายแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค. 2559
นายดรุณกล่าวว่า ทช.มีงาน 2 ส่วนหลักที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยได้เร่งรัดการประมูล นอกจากเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว อีกวัตถุประสงค์หนึ่งคือเพื่อให้ผู้รับจ้างเริ่มงานก่อสร้างได้ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2558 ไปจนถึงเดือน เม.ย. 2559 ซึ่งเป็นช่วงไม่มีฝน ทำให้ไม่มีอุปสรรคในการก่อสร้าง และเม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/2559 (ต.ค.-ธ.ค. 58) แน่นอน ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณจะมากที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 2/2559 ที่เหลือจะเป็นโครงการก่อสร้างงานขนาดใหญ่ที่มีวงเงิน 1,000-2,000 ล้านบาท
สำหรับการแก้ไขและป้องกันการทรุดตัวของถนนคันคลองชลประทานซึ่งมีระยะทางประมาณ 14 กม.นั้น เบื้องต้น ทช.ได้ดำเนินการซ่อมแซมและเปิดสัญจรได้แล้ว ส่วนการปรับปรุงแบบถาวรนั้นได้เสนอของบกลาง จำนวน 850 ล้านบาท แต่แปรญัตติไม่ผ่าน ดังนั้นจึงปรับแผนขอใช้เงินเหลือจ่ายจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 14,500 ล้านบาท ซึ่งมีประมาณ 453 ล้านบาทมาดำเนินการ โดยได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนงบประมาณ 2558 การเบิกจ่ายถึงสิ้นเดือน ส.ค. 2558 จำนวน 89% อย่างไรก็ตาม สิ้นสุด 30 ก.ย. 2558 จะสามารถเบิกจ่ายได้ 96% ตามเป้าหมายแน่นอน สำหรับงานในปี 2559 จะเป็นโครงการต่อเนื่องผูกพันงบประมาณจากปีก่อน ส่วนโครงการใหม่ เช่น การขยายช่องจราจร การยกระดับคุณภาพถนนจากลูกรังเป็นลาดยาง งานก่อสร้างสะพาน โครงการแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟ และโครงการเพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ
