“พาณิชย์” รับลูกนายกฯ เตรียมเชิญผู้ผลิต ผู้ประกอบการ หารือลดราคาสินค้าตามต้นทุนน้ำมันที่ลดลง แย้มหลายรายการมีโอกาสปรับลดลงได้ พร้อมเชิญห้างคุยลดราคาจานด่วน หลังพบแพงเพราะห้างเก็บค่าเช่า ค่าส่วนแบ่งการขายสูงเกินไป
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้กระทรวงฯ จะเชิญผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และห้างสรรพสินค้ามาหารือ เพื่อหาทางปรับลดราคาสินค้าตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามต้นทุนราคาสินค้าทั้งระบบ และหากพบว่าต้นทุนมีการปรับลดลงก็ต้องหาทางให้สินค้าลดราคาลงมาด้วย โดยเฉพาะต้นทุนจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในทำการวิเคราะห์ต้นทุนสินค้าทุกรายการแล้ว โดยเบื้องต้นพบว่าสินค้าที่มีน้ำหนักบรรทุกมากและเป็นชิ้นใหญ่จะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ลดลง เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก วัสดุก่อสร้าง เม็ดพลาสติก และปุ๋ยเคมี เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการขอให้ผู้ผลิตปรับลดราคาจำหน่ายลงมาแล้ว แต่หากพบว่าต้นทุนลดลงจนสามารถปรับลดราคาลงได้อีกก็จะขอความร่วมมือให้ปรับลดราคาต่อไป
อย่างไรก็ตาม สินค้าบางรายการ แม้ต้นทุนในการผลิตจะลดลงจากราคาน้ำมัน แต่ก็มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบนำเข้า เช่น ปุ๋ยเคมี เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่า หรือเหล็ก ที่ขณะนี้มีการประกาศใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) เป็นต้น ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาให้รอบด้าน เพราะกระทรวงฯ ต้องดูแลทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภค ให้ได้รับความเป็นธรรม
นางอภิรดีกล่าวว่า สำหรับราคาอาหารปรุงสำเร็จ ขณะนี้ราคาส่วนใหญ่ทรงตัว ไม่ได้มีการปรับขึ้นเพราะวัตถุดิบในการปรุงอาหารไม่ได้สูงขึ้น แต่ยอมรับว่าอาหารที่บริโภคภายในห้างมีราคาแพงกว่าที่บริโภคนอกห้าง เพราะมีต้นทุนแฝงหลายๆ ตัวที่ทำให้ต้นทุนการขายสูงขึ้น ซึ่งกระทรวงฯ จะมีการหารือกับห้างเพื่อขอความร่วมมือในการปรับลดอัตราค่าเช่าพื้นที่ ปรับลดส่วนแบ่งการขาย และลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้แก่ผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้า เพื่อดึงราคาอาหารให้ลดลง
“อยากจะขอให้ห้างคิดว่าการจำหน่ายอาหารเป็นบริการเสริมที่ห้างจะนำมาใช้เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้าห้าง ไม่ใช่เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหากำไร เพราะธุรกิจหลักของห้างเป็นการจำหน่ายสินค้าและบริการ ส่วนการจำหน่ายอาหารก็อยากให้เป็นบริการเสริมที่จะเข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ที่มาซื้อของและใช้บริการในห้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กระทรวงฯ อยากแนะนำให้ผู้บริโภครู้จักฉลาดซื้อประหยัดใช้ด้วย หากเลี่ยงที่จะไม่บริโภคในห้างได้ก็จะเป็นการดี เพราะราคาอาหารนอกห้างส่วนใหญ่มีราคาถูกกว่า” นางอภิรดีกล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้จัดเตรียมแผนงานและแนวทางการดูแลค่าครองชีพ รวมทั้งแผนการส่งเสริมและผลักดันการส่งออก และการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลในช่วงครึ่งปีหลัง นำเสนอต่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาร่วมประชุมและมอบนโยบายการทำงานให้แก่ผู้บริหารระดับสูงและข้าราชการของกระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 2 ก.ย.นี้
นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวงฯ ได้ปล่อยขบวนรถยนต์บรรทุกข้าวถุงตามโครงการข้าวถุงเพื่อชุมชน ซึ่งเป็นข้าวในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 1,000 ตัน มาจัดทำเป็นข้าวถุงขนาด 2 กิโลกรัม จำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด มีทั้งข้าวขาว 5% จำหน่ายราคา 30 บาทต่อถุง ข้าวสารเหนียว 10% จำหน่ายราคา 50 บาทต่อถุง หรือมีจำนวนรวม 5 แสนถุง โดยจะจำหน่ายผ่านสหกรณ์ทั่วประเทศ 58 จังหวัด เพื่อให้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยได้บริโภคข้าวสารในราคาถูก โดยกระทรวงพาณิชย์การันตีถึงคุณภาพข้าวบรรจุถุง และยินดีให้ส่งคืนหากพบว่าข้าวไม่ได้มาตรฐาน