xs
xsm
sm
md
lg

“ฉัตรชัย” ทิ้งทวน เปิด 2 โครงการลดค่าครองชีพ ส่งข้าวเพื่อชุมชน และส่งสินค้าถูกขายประชาชน-เกษตรกร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ฉัตรชัย” ทิ้งทวนผลงาน รมว.พาณิชย์ เปิดตัว 2 โครงการลดค่าครองชีพเกษตรกรและประชาชนผู้มีรายได้น้อย เตรียมส่งข้าวโครงการเพื่อชุมชนล็อตแรก 5 แสนถุง ขายผ่านสหกรณ์ 58 จังหวัดทั่วประเทศ 24 ส.ค.นี้ ราคาถูกกว่าท้องตลาด 20% และจับมือผู้ผลิตรายใหญ่ส่งสินค้าอุปโภคบริโภคขายผ่านร้านค้าของ ธ.ก.ส.ทั่วประเทศในราคาถูกกว่าท้องตลาด

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันที่ 24 ส.ค. 2558 กระทรวงพาณิชย์จะเปิดตัว “ข้าวโครงการเพื่อชุมชน” โดยจะมีการส่งข้าวถุงล็อตแรกจำนวน 1,000 ตัน หรือ 5 แสนถุง แยกเป็นข้าวขาว 5% ถุง 2 กิโลกรัม (กก.) ราคา 30 บาท และข้าวเหนียว 10% ถุง 2 กก. ราคา 50 บาท ซึ่งมีราคาถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 20% ออกไปจำหน่ายให้แก่เกษตรกร และผู้มีรายได้น้อยผ่านสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการใน 58 จังหวัดทั่วประเทศ

“ข้าวที่ผลิตทั้งหมดจะถูกส่งไปให้สหกรณ์จำหน่าย ซึ่งสหกรณ์จะมีรายได้ 15% จากราคาขาย และเมื่อมีรายได้ก็สามารถนำเงินที่ได้ไปพัฒนาธุรกิจของตัวเองให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามนโยบายโซเชียลบิสิเนสของรัฐบาล ที่ต้องการให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและเลี้ยงตัวเองได้”

อย่างไรก็ตาม การซื้อข้าวถุงดังกล่าวสามารถซื้อได้จากสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ โดยจะมีป้ายแสดงไว้ชัดเจนว่าร้านนี้จำหน่ายข้าวโครงการเพื่อชุมชน ซึ่งข้าวที่จำหน่ายเป็นข้าวคุณภาพดี มีมาตรฐานเดียวกันกับข้าวถุงที่จำหน่ายในท้องตลาด ถ้าซื้อไปแล้วมีปัญหา ไม่ได้คุณภาพ ก็สามารถส่งคืนได้

ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะมีการติดตามโครงการ ดูกระแสตอบรับ และนำมาประเมินอีกครั้งว่าจะดำเนินการต่อ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่เกษตรกรและประชาชนต่อไปหรือไม่ เพราะยังมีข้าวในสต๊อกที่สามารถนำมาทำเป็นข้าวโครงการเพื่อชุมชนได้อีก โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้อนุมัติในหลักการให้นำข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล 2 หมื่นตันมาทำข้าวถุง และเบื้องต้นให้ดำเนินการก่อน 5 พันตัน

นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า วันที่ 21 ส.ค. จะมีการเปิดตัวโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัดเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพเกษตรกรและประชาชน โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงฯ กับผู้ผลิตประมาณ 10 ราย ที่จะผลิตสินค้าราคาพิเศษถูกกว่าท้องตลาด 10-20% และบางรายการอาจจะลดมากกว่านี้ เพื่อส่งไปจำหน่ายในร้านค้าของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า (สกต.) ซึ่งเป็นร้านค้าของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทั่วประเทศ เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. 2558 ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2558

“สินค้าที่ผู้ผลิตจะผลิตส่งไปขายในร้านค้าของ ธ.ก.ส. จะเป็นแบรนด์เดียวกันกับที่จำหน่ายในท้องตลาดปกติ แต่จะมีราคาถูกกว่า เพราะเป็นความร่วมมือในการช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการรั่วไหล และไม่กระทบการค้าขายปกติ เพราะคนที่จะซื้อสินค้าในร้านของ ธ.ก.ส.ได้ต้องเป็นสมาชิกของสหกรณ์”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ผลิตรายใหญ่ 10 รายที่จะเข้าร่วมโครงการ เช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด โดยจะจัดส่งสินค้าที่ผลิตได้ เช่น ไข่ไก่ น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา นมผง สบู่ ยาสระผม ผงซักฟอก เป็นต้น ไปจำหน่าย

สำหรับการผลิตข้าวโครงการเพื่อชุมชน และการจำหน่ายสินค้าราคาถูกผ่านร้านค้าของ ธ.ก.ส.นี้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล โดย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ อดีต รมว.พาณิชย์ ได้เป็นผู้ขับเคลื่อน และให้ความสำคัญต่อการดำเนินโครงการ และได้ตั้งเป้าที่จะเปิดตัวโครงการในเดือน ส.ค. 2558 ซึ่งเป็นเดือนมหามงคลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งสามารถที่จะเปิดตัวได้ทันเวลา และน่าจะถือเป็นผลงานทิ้งทวนก่อนพ้นจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ไปรับตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์


กำลังโหลดความคิดเห็น