xs
xsm
sm
md
lg

ผุดศูนย์สุขภาพเด็กพรีเมียมรุกตลาดแม่และเด็ก 3 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“สิรัชชา พัชรโสภาชัย”
เจ้าของแฟรนไชส์ร้าน “โมโมโกะ แบ็ค แอนด์ ชูส์ สปา” สบช่องว่างตลาดแม่และเด็ก ผุดไอเดียใหม่ทุ่มทุน 30 ล้านบาทเปิด “อิชิ เบบี้ เซ็นเตอร์” ศูนย์สุขภาพเด็กระดับพรีเมียมแห่งแรกในไทย เจาะกลุ่มคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง คาดปีแรกทำรายได้ 10-15 ล้านบาท

น.ส.สิรัชชา พัชรโสภาชัย ผู้ก่อตั้งและเจ้าของแฟรนไชส์ร้าน “โมโมโกะ แบ็ค แอนด์ ชูส์ สปา” เปิดเผยว่า ธุรกิจเกี่ยวกับแม่และเด็กมีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 3% จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2558 คาดว่าจะมีการเติบโตสูงถึง 8% เนื่องจากประชากรไทยมีจำนวนบุตรน้อยลงและมักเลือกสรรสิ่งที่ดีมีคุณภาพให้แก่บุตรมากขึ้น ทั้งยังมีช่องว่างให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ มากขึ้น จึงทำให้ตัดสินใจใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาทในการลงทุนดำเนินธุรกิจศูนย์สุขภาพเด็กระดับพรีเมียมแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “อิชิ เบบี้ เซ็นเตอร์” (ICHI baby center) ขึ้นมาด้วยลักษณะอาคารสูง 4 ชั้น รวมพื้นที่กว่า 1 พันตารางเมตร บริเวณซอยทองหล่อ 15 กรุงเทพฯ

ศูนย์สุขภาพเด็ก “อิชิ เบบี้ เซ็นเตอร์” มีจุดเด่นด้านการให้บริการครบวงจรเกี่ยวกับสุขภาพเด็ก ทั้งในส่วนของการสอนว่ายน้ำเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 เดือนถึง 14 ปี ด้วยหลักสูตรช่วยตัวเองและเอาตัวในรอดในสถานการณ์คับขัน หรือ Survival Skill คอร์สละ 3-5 คนซึ่งแตกต่างจากการสอนทั่วไป รวมถึงหลักสูตรโยคะในน้ำสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ พร้อมบริการสปาและนวดสำหรับเด็กแรกเกิดถึงอายุ 12 ปี ทั้งยังมีสระจากุชชี่ให้คุณพ่อหรือคุณแม่ร่วมกิจกรรมกับลูกได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีการสอนมวยไทยสำหรับเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 2 ปีครึ่งถึง 14 ปี รวมถึงบริการ Car Seat and Baby Stroller Spa ให้บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคคาร์ซีทต และรถเข็นเด็กโดยเฉพาะ ด้วยการทำ UV Sterilize สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ 99-100%

“อิชิ เบบี้ เซ็นเตอร์” ยังจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งประมาณ 48 ตารางเมตรสำหรับจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับเด็กที่คัดสรรเป็นพิเศษกว่า 10 ชนิด เป็นจำนวนประมาณ 100 เอสเคยู โดยมีทั้งสินค้าภายใต้แบรนด์ ICHI สินค้าคุณภาพนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เกาหลีใต้ และอื่นๆ เช่น เบาะ, หมอน, ผลิตภัณฑ์สกินแคร์, แป้งฝุ่น, เครื่องผลิตกระดาษเปียกอุ่นสำหรับทำความสะอาดผิวเด็กและเครื่องใช้, ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับว่ายน้ำ แว่นว่ายน้ำ และแว่นกันแดดซึ่งมีจุดเด่นพิเศษคือหากลูกค้าทำหายสามารถขอรับชิ้นใหม่ได้ฟรี 1 ครั้งโดยไม่มีเงื่อนไข

“ดิฉันใช้เวลาศึกษาธุรกิจและตลาดเป็นเวลาประมาณ 3 ปีในช่วงก่อนตั้งครรภ์ จึงตัดสินใจดำเนินธุรกิจด้านนี้ขึ้นมา เพราะเห็นว่าในประเทศไทยยังมีที่ใดให้บริการในลักษณะนี้มาก่อนและต้องการคัดสรรสิ่งที่ดีให้แก่ลูกและเด็กคนอื่นๆ เพราะเชื่อมั่นว่าพ่อแม่หลายๆ ท่านย่อมต้องการมอบสิ่งที่ดีๆ ให้แก่ลูกเช่นกัน และเมื่อเด็กได้รับสิ่งดีๆ ตั้งแต่วัยเยาว์ย่อมเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพได้อย่างแน่นอน”

สำหรับอัตราค่าบริการด้านต่างๆ เริ่มตั้งแต่ 800 ขึ้นไป โดยเบื้องต้นจัดโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ใช้บริการที่ซื้อคอร์ส 3 หมื่นบาทจะได้รับบริการมูลค่า 4.5 หมื่นบาทโดยไม่กำหนดระยะเวลา ขณะที่ศักยภาพของศูนย์ สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้ประมาณ 60 คนต่อวัน คาดว่าภายในช่วง 1-6 เดือนแรกจะมีผู้ใช้บริการประมาณ 40% และเพิ่มเป็น 80% ในระยะต่อไป

“เนื่องจากธุรกิจนี้เป็นตลาดเฉพาะ หรือ Niche Market ที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูก ศูนย์ฯ จึงใช้งบประมาณการตลาด 10 ล้านบาทในการสร้างความรับแก่กลุ่มเป้าหมายผ่านกิจกรรมต่างๆ และช่องทางออนไลน์ประมาณ 80% ส่วนอีก 20% เป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ โดยคาดว่าในปีแรกจะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 10-15 ล้านบาท แยกเป็นการให้บริการต่างๆ 90% และจำหน่ายสินค้า 10% พร้อมกำหนดระยะเวลาคืนทุนภายใน 3 ปี ก่อนที่จะตัดสินใจขยายสาขาใหม่เป็นลำดับต่อไป” น.ส.สิรัชชากล่าวในตอนท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น