“ทีเส็บ” ระบุเหตุการณ์ “บึ้ม ราชประสงค์” ไม่กระทบอุตสาหกรรมไมซ์ ต่างชาติยังมั่นใจไทยเป็น “ฮับ” จัดการประชุมนานาชาติต่อเนื่องถึงปี 2562 โชว์ผลงาน 3 ไตรมาสแรกมีนักเดินทางเพิ่มขึ้น 7.84% พ่วงรายได้เพิ่มขึ้น 8.69% เร่งจัด 3 แคมเปญการตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ด้านการจัดประชุมนานาชาติ ประชุมองค์กร และท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล เน้นกลุ่มอาเซียน+6 แอฟริกาใต้ ยุโรปตะวันออก และกลุ่มตะวันออกกลาง
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า “ทีเส็บ” ได้จัดงานสัมมนาโครงการประชุมผู้ประกอบการธุรกิจการประชุมประจำปี 2558 หรือ Meeting Industry Day ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมอินเตอร์ คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เพื่อใช้เป็นเวทีสำคัญในการสร้างการรับรู้และแถลงนโยบายแผนการดำเนินงานส่งเสริมธุรกิจการประชุมนานาชาติ (Conventions) การประชุมองค์กร (Meetings) และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไมซ์ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น
สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมไมซ์ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 - มิถุนายน 2558) มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์และรายได้เติบโตขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนนักเดินทางเข้ามาไทย 726,280 คน เติบโตขึ้น 7.84% คิดเป็นรายได้ 63,714 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8.69% โดยนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่เดินทางมายังประเทศไทยเป็นจำนวนมากที่สุดคือ จีน ตามด้วยสิงคโปร์ อินเดีย มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ลาว ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี และฟิลิปปินส์ ขณะที่เป้าหมายของอุตสาหกรรมไมซ์ในปีงบประมาณ 2558 คือจำนวนนักเดินทาง1,036,300 คน และรายได้ 106,780 ล้านบาท
“ในส่วนของอุตสาหกรรมการประชุมในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 พบว่ามีจำนวนนักเดินทางรวมทั้งสิ้น 586,468 คน สร้างรายได้ 51,592 ล้านบาท แบ่งเป็นการประชุมนานาชาติมีจำนวนนักเดินทาง 195,368 คน สร้างรายได้ 18,144 ล้านบาท การประชุมองค์กร มีจำนวนนักเดินทาง 192,879 คน สร้างรายได้ 20,863 ล้านบาท และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล มีจำนวนนักเดินทาง 198,221 คน สร้างรายได้ 12,585 ล้านบาท โดยเป้าหมายของอุตสาหกรรมการประชุมคือ จำนวนนักเดินทาง 845,900 คน และรายได้ 89,780 ล้านบาท”
*** จัด 3 แคมเปญเจาะตลาดใหม่ ***
นายนพรัตน์ กล่าวด้วยว่า “ทีเส็บ” มีเป้าหมายยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่จุดหมายปลายทางคุณภาพด้านการจัดประชุมแห่งเอเชียด้วยการเน้นศึกษาศักยภาพตลาดใหม่ๆ ของธุรกิจการประชุมองค์กรและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในตลาดแอฟริกาใต้ ยุโรปตะวันออก และกลุ่มตะวันออกกลาง พร้อมกับจัดทีมงานระดับภูมิภาคและแต่งตั้งตัวแทนการตลาดเพิ่มขึ้นในประเทศสิงคโปร์และออสเตรเลีย จากปัจจุบันที่มีแล้วในประเทศจีน ญี่ปุ่น อินเดีย และสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นยังจะเข้าร่วมงานเทรดโชว์ด้านการประชุมที่สำคัญระดับโลก 7 งาน ตลอดจนเข้าร่วมงานโรดโชว์อีก 7 งาน
สำหรับการส่งเสริมอุตสาหกรรมการประชุมให้ก้าวสู่เป้าหมายนั้น “ทีเส็บ” จะดำเนินงานภายใต้ 3 แคมเปญการตลาดสำคัญ ได้แก่ แคมเปญ “Visitor Promotion ASEAN+6” (บรูไน, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ลาว, มาเลเซีย, เมียนมาร์, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, เวียดนาม, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และอินเดีย) สำหรับธุรกิจการประชุมนานาชาติด้วยการสนับสนุนผู้จัดงานในการทำกิจกรรมตลาดเพื่อเพิ่มสัดส่วนผู้เข้าร่วมประชุมขนาด 300 คนขึ้นไป
ส่วนธุรกิจการประชุมองค์กรและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล นำเสนอแคมเปญ “Thailand Connect...Connect beyond the capital...Fly to Explore Our Diverse Destinations” โดยร่วมมือกับสายการบินพันธมิตร ในการสนับสนุนกลุ่มคอร์ปอเรตต่างประเทศเพื่อโปรโมทให้นักเดินทางเข้ามาจัดประชุมในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดประชุมในเมืองไมซ์ซิตี้ผ่านการสนับสนุนทางด้านงบประมาณภายใต้เงื่อนไขว่าต้องใช้บริการเดินทางในประเทศไทยด้วยสายการบินพันธมิตรกับ “ทีเส็บ” ระหว่างเดือนตุลาคม 2558 - ธันวาคม 2559
นอกจากนั้นยังมีแคมเปญ “Thailand Big Thanks!” ด้วยการมอบข้อเสนอพิเศษให้กลุ่มคอร์ปอเรตต่างประเทศที่เข้ามาจักประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไทยเพื่อดึงดูดให้กลุ่มการประชุมขนาดใหญ่ หรือเมกะอีเวนท์ เข้ามาจัดประชุมในประเทศไทยมากขึ้นผ่านการสนับสนุนทางด้านงบประมาณที่มีกำหนดการเดินทางระหว่างเดือนตุลาคม 2558- ธันวาคม 2559
*** จัด 6 มาตรการสร้างความเชื่อมั่นนักเดินทาง ***
นายนพรัตน์ ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ว่า ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่ออุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งการเลื่อนและยกเลิกการจัดงาน โดยระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2558 ยังมีงานไมซ์ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย จำนวน 72 งาน จำนวน 76,608 คน สร้างรายได้ 6,600 ล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น “ทีเส็บ” ยังสามารถชนะการประมูลสิทธิ์จัดงานล่วงหน้าไปจนถึงปี 2560-2562 อีกหลายงาน
อย่างไรก็ตาม “ทีเส็บ” ได้จัดทำ 6 มาตรการเร่งด่วนเพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้จัดงานไมซ์ในประเทศไทยและนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่เดินทางมายังประเทศไทยในระหว่างเดือนสิงหาคม - ตุลาคม 2558 ตามที่ “ทีเส็บ” ให้การสนับสนุน ประกอบด้วย
1.มาตรการให้การสนับสนุนบริการ MICE LANE เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์จากเครื่องบินไปสู่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ณ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยผู้จัดงานสามารถขอการใช้บริการต้อนรับแขกระดับสูง (วีไอพี) ผ่านบริการ MICE LANE เพื่อความสะดวกตั้งแต่เดินทางถึงสนามบินทั้งการนำไปยังด่านตรวจคนเข้าเมือง ช่วยเหลือในการรับกระเป๋าเดินทางและส่งต่อไปยังผู้จัดงานที่มารอรับที่สนามบินจนเดินทางออกจากสนามบิน
2.มาตรการให้บริการข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์พิเศษที่ TCEB Counter ณ สนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณสายพานหมายเลข 18 ผู้โดยสารขาเข้า เพื่อให้บริการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งตอบข้อซักถามให้แก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว สมาคม หรือหน่วยงานรัฐอื่นๆ
3.มาตรการการสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้จัดงานไมซ์ โดย “ทีเส็บ” จะดำเนินการออกหนังสือชี้แจงและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันตามที่ผู้จัดงานร้องขอ
4.มาตรการให้การสนับสนุนเรื่องรถตำรวจนำขบวน (Police Escort) ในกรณีที่มีการเดินทางมาเป็นหมู่คณะกลุ่มใหญ่ หรือเป็นบุคคลสำคัญ เน้นการอำนวยความสะดวกด้านความรวดเร็วและปลอดภัยสำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในเส้นทางไปกลับสนามบินที่พัก สำหรับงานไมซ์ที่เดินทางมาเป็นกลุ่มใหญ่ หรือมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงาน ภายใต้เงื่อนไขจำนวนนักเดินทางขั้นต่ำ 200 คนต่อกลุ่มและมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงาน
5.มาตรการให้การสนับสนุนด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับแขกระดับสูง (วีไอพี) ณ สถานที่จัดงาน โดยผู้จัดงานไมซ์สามารถขอสนับสนุนค่าใช้จ่ายการจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ตามจำนวนนักเดินทางในกลุ่มคือ เจ้าหน้าที่ 2 ท่านต่อนักเดินทาง 100 คน ในอัตราเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่เกิน 1,500 บาทต่อคนต่อวัน
6.มาตรการให้การสนับสนุนด้านการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ เพิ่มเติมตามความจำเป็นเร่งด่วน
