xs
xsm
sm
md
lg

“ทีเส็บ” ขยายตลาด “เมกะไซส์” ดึงกลุ่มไมซ์จีนเพิ่ม 30%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ”
ผู้จัดการรายวัน 360 - เผยนักเดินทางกลุ่มไมซ์จีนนิยมเลือก “ไทย” เป็นจุดหมายปลายทาง หลังปี 58 นักเดินทางไมซ์จีนกว่า 1 แสนราย ดันรายได้เข้าไทย 9 พันล้านบาท ด้าน “ทีเส็บ” เปิดตัวแคมเปญใหม่ขยายตลาด “เมกะ ไซส์” ดึงงานประชุมองค์กรและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลขนาดใหญ่ที่มีผู้ร่วมงาน 2 พันรายขึ้นไป หวังปี 59 นักเดินทางไมซ์จีนเพิ่มขึ้น 30% ล่าสุดยักษ์ใหญ่ขายตรงอาหารเสริมจัดงานใหญ่ Infinitus China Overseas Training 2016 ปี 58 นำนักเดินทาง 1.4 หมื่นคนร่วมทริปในกรุงเทพฯ-พัทยา คาดสร้างรายได้กว่า 1.3 พันล้านบาท

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า จากภาพรวมของตลาดไมซ์ในปี 2558 พบว่า มีนักเดินทางกลุ่มไมซ์ทั้งสิ้น 1,095,995 ราย สร้างรายได้ให้ประเทศไทย 95, 857 ล้านบาท โดยมีนักเดินทางกลุ่มงานประชุมองค์กรและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือ Meeting and Incentives (M&I) มีสัดส่วนมากกว่า 50% คือมีนักเดินทาง 516,663 ราย สร้างรายได้ 44,533 ล้านบาท

สำหรับนักเดินทางกลุ่ม M&I ที่เข้ามายังประเทศไทยมากที่สุด 10 ลำดับแรก คือ 1. จีน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของนักเดินทางทั้งหมด 2. อินเดีย 3. สิงคโปร์ 4. มาเลเซีย 5. สหรัฐอเมริกา 6. ญี่ปุ่น 7. เกาหลีใต้ 8. อินโดนีเซีย 9. ฮ่องกง 10. ออสเตรเลีย โดยตลาดหลักของ M&I ยังคงเป็นกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย ส่วนตลาดรอง คือ ยุโรป สหรัฐอเมริกา และโอเชียเนีย โดยกำลังศึกษาข้อมูลตลาดใหม่คือยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และละตินอเมริกา

นักเดินทางกลุ่ม M&I ถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอยและมีกำลังซื้อสูงฉลี่ยคนละ 8.79 หมื่นบาทต่อทริปประมาณ 4.5 วัน ในปี 2559 จึงวางแผนส่งเสริมการตลาด M&I เพื่อเน้นดึงการจัดงานในลักษณะ “เมกะ ไซส์” (MEGA size) ที่มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากกว่า 2 พันคนขึ้นไป และมีการพำนักในประเทศไทยอย่างน้อย 3 คืน โดยใช้แคมเปญส่งเสริมการตลาดและการขาย “Thailand Big Thanks!” โดย “ทีเส็บ” จะให้การสนับสนุนงบประมาณด้านค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในประเทศไทย เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และอื่นๆ เป็นจำนวนเงินสูงสุด 2 ล้านบาทต่อการจัดงาน 1 ครั้ง ภายใต้เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 - 30 ก.ย. 2560 และต้องมีการเดินทางในประเทศไทยภายในวันที่ 1 ต.ค. 2558 - 31 ธ.ค. 2560

ขณะเดียวกัน ยังมีแคมเปญสนับสนุนเพิ่มเติมคือ “THAILAND CONNECT beyond THE CAPITAL” เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางภายในประเทศกับสายการบินพันธมิตรคือ “การบินไทย”, “ไทยสมายล์ แอร์เวย์” และ “บางกอกแอร์เวย์ส” โดยกลุ่มไมซ์ที่จะได้รับการสนับสนุนต้องมีผู้เข้าร่วมงานอย่างน้อย 100 คนต่อกลุ่มและต้องพำนักในประเทศไทยอย่างน้อย 3 คืน โดยนักเดินทางจะได้รับการสนับสนุนค่าเดินทางรายละ 1 พันบาท หรือสูงสุด 3 แสนบาทต่อกลุ่ม ภายใต้เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 - 30 ก.ย. 2559 และต้องมีการเดินทางในประเทศไทยภายในวันที่ 1 ต.ค. 2558 - 31 ธ.ค. 2559

นายนพรัตน์กล่าวด้วยว่า ล่าสุด “ทีเส็บ” ให้การสนับสนุนการประชุม Infinitus China Overseas Training 2016 ระหว่างวันที่ 11-29 พ.ค. 2559 ซึ่งถือเป็นการจัดงาน M&I ของบริษัทขายตรงอาหารเสริมและเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ของจีน โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า การแสดงทางวัฒนธรรมไทย การมอบของที่ระลึกซึ่งจัดทำขึ้นเป็นพิเศษ และอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
น.ส.นุช หอมรสสุคนธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล “ทีเส็บ”
ด้าน น.ส.นุช หอมรสสุคนธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล “ทีเส็บ” กล่าวเสริมว่า การจัดงาน Infinitus ในครั้งนี้ถือเป็นการจัดงานครบรอบ 20 ปีของการประชุมโดยมีการจัดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 4 ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และพัทยา ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมงานแบ่งเป็น 7 คณะ คณะละประมาณ 2 พันคน รวมทั้งสิ้นกว่า 1.4 หมื่นคน พร้อมสร้างรายได้ให้ประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1.3 พันล้านบาท

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาการเติบโตของตลาด M&I ในประเทศจีนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์จากจีนถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในปี 2558 ด้วยจำนวน 109,987 ราย สร้างรายได้รวม 9,197.65 ล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2559 สัดส่วนนักเดินทางกลุ่ม M&I ของจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% เนื่องจากปัจจุบัน “ทีเส็บ” ได้มีการแต่งตั้งตัวแทนเพื่อทำการตลาดและเจาะกลุ่มเป้าหมายในตลาดจีนโดยตรง เน้นพื้นที่หลักคือเซี่ยงไฮ้, ปักกิ่ง และกว่างโจว พร้อมขยายไปยังเสินเจิ้น และเฉินตู ขณะเดียวกันยังได้รับการสนับสนุนจากสถานกงสุล 7 แห่งในประเทศจีน เพื่อช่วยส่งเสริมการทำตลาดอุตสาหกรรมไมซ์โดยเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง

น.ส.นุช กล่าวด้วยว่า การทำตลาดกลุ่ม M&I เน้นอุตสาหกรรมหลักคือ ขายตรง, MLM, ประกันชีวิตและประกันภัย, ไบโอเทคโนโลยี และไอที โดยเฉลี่ยแต่ละปีมีการจัดงานในลักษณะ “เมกะ ไซส์” ประมาณ 5 ครั้ง อาทิ Herbalife มีผู้ร่วมงานประมาณ 2 หมื่นคน, Marie-Ann ประมาณ 5 พันคน, Manulife ประมาณ 2 พันคน ฯลฯ โดยในเดือน ก.ย. 2559 ยังจะมีการจัดงาน Pro-Health ที่ จ.ภูเก็ต คาดว่าจะมีผู้ร่วมงาน 5.5 พันคน และในเดือน ส.ค. 2560 จะมีการจัดงาน Jeunesse Global Conference 2017 (Health Care / Skin Care) คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน 1.2 หมื่นราย



กำลังโหลดความคิดเห็น