xs
xsm
sm
md
lg

ไมซ์จีนไม่หวั่นเหตุบึ้มใต้ ร่วมทริป “ทีเส็บ” ทัวร์ใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย (ขวา) ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ”  และนางสาวนุช หอมรสสุคนธ์ (ซ้าย) ผู้อำนวยการ ฝ่ายการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล “ที
ผู้จัดการรายวัน 360 - นักธุรกิจจีนกว่า 40 ราย ตอบรับคำเชิญ “ทีเส็บ” ร่วมโครงการ Thailand Incentive & Meeting Exchange 2016 พร้อมออกทริปทัวร์ภูเก็ต 18-19 ส.ค. 59 ก่อนคณะใหญ่กว่าครึ่งหมื่นชีวิตร่วมงานใหญ่ “Pro-Health 2016” ช่วงปลายเดือน ส.ค.-ก.ย.59

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้เมื่อวันที่ 11-12 ส.ค. 59 ไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงกับกลุ่มนักเดินทางอุตสาหกรรมไมซ์ซึ่งมักวางแผนล่วงหน้าเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะการจัดโครงการล่าสุด คือ “Thailand Incentive & Meeting Exchange 2016” (TIME 2016) โดยมีนักธุรกิจชาวจีนกว่า 40 รายจากเมืองเศรษฐกิจหลัก เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกวางโจว เข้าร่วมประชุมระหว่างวันที่ 16-17 ส.ค.59 ณ โรงแรมพลาซา แอทธินี กรุงเทพฯ ก่อนเดินทางไป จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 18-21 ส.ค.59

“ทีเส็บ” กำหนดแผนจัดโครงการ TIME 2016 ล่วงหน้ามานานกว่า 1 ปี จนเมื่อเกิดเหตุการณ์ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ แต่นักเดินทางกลุ่มไมซ์จากประเทศจีนก็ไม่ได้ยกเลิกการเดินทางแต่อย่างใด เพราะมีความเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีความรุนแรงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป ทั้งยังมีความเชื่อมั่นในประเทศไทยเพราะมีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน

“อย่างไรก็ตาม ทีเส็บ ได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ และอื่นๆ เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจ ตลอดจนข้อมูลต่างๆ ที่ถูกต้องแก่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักเดินทางที่หลายๆ ประเทศต่างพยายามช่วงชิงตลาด ทั้งสิงคโปร์ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย เป็นต้น”

การจัดโครงการ TIME 2016 เป็นความร่วมมือกับภาคีเอกชนและสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โครงการนี้เป็นเวทีแห่งความรู้สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Meetings & Incentives) หรือ MI พร้อมกำหนดทิศทางและวางแผนการตลาด ตลอดจนเป็นการระดมความคิดเห็นแลกเปลี่ยนมุมมองเพื่อหาแนวทางสนับสนุนกลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาจัดกิจกรรมในประเทศไทย ทั้งยังมุ่งหวังที่จะขยายตลาดไมซ์ไปยังกลุ่มนักเดินทางที่มีคุณภาพและมีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง

นายนพรัตน์กล่าวด้วยว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ประเทศไทยมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์ จำนวน 1,095,995 คน สามารถสร้างรายได้ 95,857 ล้านบาท โดยมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากประเทศจีนเดินทางมายังประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ตามด้วย อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย ฮ่องกง และออสเตรเลีย ในขณะที่สัดส่วนของนักเดินทางกลุ่ม MI มีจำนวน 516,663 คน สร้างรายได้ 44,533 ล้านบาท

ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาของปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์รวม 750,742 คน สร้างรายได้ 60,593 ล้านบาท โดยตลาดจีนยังครองอันดับหนึ่งของจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์สูงสุดตามด้วยอินเดีย และสิงคโปร์ โดยมีสัดส่วนของนักเดินทางกลุ่ม MI จำนวน 393,859 คน สร้างรายได้ 29,664 ล้านบาท

“เป้าหมายของอุตสาหกรรมไมซ์ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 คาดว่าจะมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์ จำนวน1,060,000 คน สร้างรายได้ 92,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในตลาด MI จำนวน 518,000 คน สร้างรายได้ 44,000 ล้านบาท” นายนพรัตน์กล่าวในตอนท้าย

ด้าน น.ส.นุช หอมรสสุคนธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล “ทีเส็บ” กล่าวว่า โครงการ TIME 2016 เป็นการจัดงานครั้งแรกโดยมุ่งเน้นตลาดนักเดินทางประเทศจีนซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ของอุตสาหกรรมไมซ์ โดยมีนโยบายจัดงานในปี 2560 โดยเน้นตลาดอินเดียซึ่งเป็นตลาดรอง จากนั้นในปี 2561 จะเน้นตลาดระดับ Global เป็นลำดับต่อไป

สำหรับสัดส่วนของนักเดินทางกลุ่ม MI จำนวน 393,859 คน ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาของปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 มีจีนเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 23% ตามด้วยอินเดีย 19% สิงคโปร์ 15% เกาหลีใต้ 7% ญี่ปุ่น 7% อินโดนีเซีย 6% เวียดนาม 5% ฟิลิปปินส์ 4% และอื่นๆ 15% ประกอบด้วยยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันประเทศไทยมีคู่แข่งสำคัญในการจัดงาน MI คือ มาเลเซีย และเกาหลีใต้

“การจัดงานครั้งแรกมุ่งเน้นตลาดจีนเป็นหลัก โดยนอกจากนักธุรกิจจีน 40-45 รายในธุรกิจอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์, ไอที, โทรคมนาคม, ประกันภัย, MLM และอื่นๆ ยังมีผู้ประกอบการไทยอีกว่า 80 รายในอุตสาหกรรมโรงแรม ท่องเที่ยว และบริการ เข้าร่วมเจรจาธุรกิจด้วย”

สำหรับกิจกรรมในงาน TIME 2016 แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1. Knowledge Exchange เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ในอุตสาหกรรมการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในรูปแบบของการจัด FORUM เชิญผู้เชี่ยวชาญในด้าน MI มาเป็นวิทยากร นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ การวิเคราะห์ภาพรวมตลาดไมซ์จีน การเลือกจุดหมายปลายทางของการจัดกิจกรรมไมซ์ของกลุ่มบริษัทจีนในต่างประเทศ เป็นต้น โดยมีผู้เข้าร่วมงานเป็นผู้ประกอบการในภาคเอกชนจากอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยประมาณ 150 ราย

2. Business Exchange เวทีเจรจาธุรกิจ (Table-top Session) สร้างโอกาสทางการตลาดและการขายให้ผู้ประกอบการไทยได้เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไมซ์ (MICE Agent) จากประเทศจีนจำนวนกว่า 40 ราย

3. Experience Exchange การจัดกิจกรรมทัศนศึกษาขนาดใหญ่ (Mega Familiarization Trip) สำหรับผู้ประกอบการไมซ์ (MICE Agent) สื่อมวลชน และกลุ่มลูกค้าบริษัท (Corporates) จากประเทศจีนจำนวน 40-45 ราย ณ จังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์เชิงรุกอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องกับกลุ่มตลาดจีน โดยขณะนี้จังหวัดภูเก็ตกำลังได้รับความสนใจในการจัดงานไมซ์จากกลุ่มลูกค้าจีนและด้วยความพร้อมของการเป็นเมืองแห่งไมซ์

น.ส.นุชกล่าวในตอนท้ายว่า งานสำคัญของธุรกิจ MI ที่ “ทีเส็บ” ให้การสนับสนุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมาคือ งาน “Infinitus China Overseas Training 2016” ในช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมงานจำนวน 1.4 หมื่นคน โดยในช่วงปลายเดือน ส.ค.-ก.ย.59 ยังจะมีการจัดงาน “Pro-Health 2016” ซึ่งจะมีนักเดินทางแบ่งกลุ่มมาประเทศไทย 11 คณะ รวมผู้เข้าร่วมงานประมาณ 5.5 พันราย



กำลังโหลดความคิดเห็น