xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแผนการตลาดธุรกิจ MI ปี 60 ดัน “ไมซ์” ทำรายได้ 1 แสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ”
ผู้จัดการรายวัน 360 - “ทีเส็บ” กำหนดกลยุทธ์การตลาดธุรกิจการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลปี 2560 จัดเซกเมนต์ใหม่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก “เอเชีย-ยุโรป-สหรัฐอเมริกา-โอเชียเนีย” พร้อมศึกษาตลาดใหม่ในยุโรปตะวันออก และกลุ่มประเทศ CIS เดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุกจัดแคมเปญพร้อมงบประมาณสนับสนุนเต็มพิกัด หวังสร้างรายได้รวมอุตสาหกรรมไมซ์ 101,000 ล้านบาท จากนักเดินทางรวม 1,109,000 คน

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า จากการศึกษาเรื่องผลกระทบเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย พบว่ามูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจจากการดำเนินกิจกรรมของอุตสาหกรรมไมซ์ในปีงบประมาณ 2558 คิดเป็นจำนวน 2.2 แสนล้านบาท ทั้งยังส่งผลต่อการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจประมาณ 164,427 อัตรา และยังส่งผลประโยชน์เชิงปริมาณที่เกิดจากการสร้างเครือข่าย การสร้างตราสินค้า และการแบ่งปันทักษะระหว่างอุตสาหกรรม

ในส่วนของอุตสาหกรรมการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือ Meetings & Incentives (MI) นั้นพบว่า ในปีงบประมาณ 2558 มีมูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจจากการดำเนินกิจกรรมต่างๆ คิดเป็นจำนวน 1 แสนล้านบาท และยังส่งผลต่อการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจประมาณ 7.3 หมื่นอัตรา นับเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมไมซ์ โดยเฉพาะในส่วนของ MI ที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ

มุ่งเป้าตลาดหลัก “เอเชีย-ยุโรป-สหรัฐอเมริกา” 
สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมไมซ์ในช่วง 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ 2559 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์รวม 750,742 คน สร้างรายได้ 60,593 ล้านบาท คิดเป็นนักเดินทางกลุ่ม MI จำนวน 393,859 คน สร้างรายได้ 29,664 ล้านบาท โดยมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากประเทศอินเดียเป็นอันดับหนึ่ง รองมาคือ จีน และสิงคโปร์

นายนพรัตน์กล่าวด้วยว่า ตลาดหลักของธุรกิจ MI คือภูมิภาคเอเชีย ตลาดรองมาคือ ยุโรป สหรัฐอเมริกา และโอเชียเนีย ส่วนกลุ่มตลาดใหม่ที่กำลังศึกษาข้อมูลและเริ่มสร้างการรับรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยคือ ยุโรปตะวันออก และกลุ่มประเทศ CIS (Commonwealth of Independent States)

“ส่วนภาพรวมแผนตลาด MI ในปี 2560 นั้น ทีเส็บจะเน้นกลยุทธ์เชิงลึก แบ่งกลุ่มเป้าหมายใหม่ตามเซกเมนต์หลักที่มีการใช้งบประมาณในการเดินทางและทำกิจกรรมต่อครั้งค่อนข้างสูง รวมทั้งกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายของแต่ละกลุ่มและแนวทางการเจาะตลาดของกลุ่มเป้าหมายต่างๆ”

จากข้อมูลของ 2016 GBTA Global BTI Outlook ที่สำรวจภาพรวมการเติบโตของประเทศต่างๆ ในโลกของการใช้งบประมาณสำหรับการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจภายใน 5 ปี (พ.ศ. 2559-2563) คาดว่าประเทศที่จะเติบโตสูงได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ตุรกี และจีน ส่วนประเทศที่เติบโตในระดับปานกลาง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และยุโรป

“ข้อมูลจากการสำรวจภาพรวมนี้ทำให้เรามองเห็นโอกาสเติบโตของบางประเทศในเอเชียซึ่งถือเป็นตลาดหลักของประเทศไทย ทีเส็บและผู้ประกอบการจึงต้องร่วมกันปรับแผนการดำเนินงานให้พร้อมที่จะรองรับการเติบโตดังกล่าวนี้ โดยตั้งเป้าจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในปี 2560 ด้วยจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 1,109,000 คน สร้างรายได้ 101,000 ล้านบาท” นายนพรัตน์กล่าวในตอนท้าย
น.ส.นุช หอมรสสุคนธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล “ทีเส็บ”
เน้นตลาด 3 กลุ่มธุรกิจใหญ่
ด้าน น.ส.นุช หอมรสสุคนธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล “ทีเส็บ” กล่าวว่า ในปี 2560 ตลาด MI มีการกำหนดเป้าหมายใหม่เป็น 3 กลุ่มหลักที่มีคุณภาพ ได้แก่ 1. กลุ่มเมกะไซส์ ที่มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 2 พันรายขึ้นไป เน้นกลุ่มธุรกิจขายตรง, ประกัน, โทรคมนาคม, ไอที, ยานยนต์ โดยเฉพาะประเทศจีน, อินเดีย และกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก

2. กลุ่มการจัดประชุมองค์กร โดยมีลักษณะเป็นการประชุมบอร์ด ประชุมประจำปี ประชุมระดับภูมิภาค ในธุรกิจต่างๆ เช่น การเงิน-การธนาคาร, ยานยนต์, ไอที, โทรคมนาคม และเภสัชภัณฑ์ มุ่งเน้นที่ประเทศญี่ปุ่น, สิงคโปร์, มาเลเซีย, สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย

3. กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในระดับพรีเมียมซึ่งเป็นกลุ่มขนาดเล็กแต่มีอัตราการใช้จ่ายต่อหัวสูง เช่น ผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจขายตรง, ไอที, โทรคมนาคม และยานยนต์ มุ่งเน้นที่ประเทศจีน, สิงคโปร์, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, อินเดีย, ออสเตรเลีย และยุโรป

กำหนดแผนส่งเสริมการตลาด 5 แนวทาง
น.ส.นุชกล่าวอีกว่า “ทีเส็บ” กำหนดแผนและแนวทางส่งเสริมการตลาดใน 5 รูปแบบหลัก เน้นทำงานร่วมกับภาคีพันธมิตร ขยายตลาดใหม่และสร้างกิจกรรมที่หลากหลายให้แก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ ประกอบด้วย 1. การเข้าร่วมงานเทรดโชว์ครอบคลุมทุกภูมิภาค เช่น งาน AIME 2017 งาน IMEX Frankfurt 2017 งาน IMEX America 2017 เป็นต้น 2. จัดกิจกรรมโรดโชว์ในตลาดเป้าหมาย ได้แก่ อินเดีย, จีน และญี่ปุ่น

3. ตั้งเป้าหมายการขายในตลาดศักยภาพใหม่โดยเฉพาะตลาดพรีเมียม 4. จัดกิจกรรมเชิญกลุ่มลูกค้าองค์กรและตัวแทนการขายร่วมเสวนาในเวทีการแลกเปลี่ยนความรู้ รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจและสัมผัสประสบการณ์ไมซ์ในประเทศไทย โดยมีโครงการ Thailand Incentive and Meeting Exchange (TIME) เป็นงานประจำปีที่มี 3 กิจกรรมภายในงาน คือ Knowledge Exchange, Business Exchange และ Experience Exchange

5. การขยายตลาดผ่านตัวแทนในต่างประเทศซึ่งในปีหน้าได้ขยายไปสู่ยุโรปและออสเตรเลียจากปัจจุบันที่มีในจีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ส่วนในประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เช่น จีน ยังมีการขยายกิจกรรมจากเมืองหลักอย่างปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว ออกสู่เมืองรอง ได้แก่ เซินเจิ้น, เฉิงตู, ฉงชิ่ง, หางโจว, ซูโจว และหนานจิง

พัฒนาแคมเปญเอื้อ 5 กลุ่มสินค้า-บริการ
น.ส.นุชกล่าวต่อไปว่า ในปี 2560 MI ยังได้พัฒนาแคมเปญส่งเสริมการตลาดใหม่คือ “Meet in Style, Meet in Thailand” โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่มสินค้าและบริการหลักที่จะเสนอ คือ 1. Meet at Delightful Destinations นำเสนอจุดหมายปลายทางที่หลากหลายนอกเหนือจาก 5 เมืองไมซ์หลัก โดยนำเสนอเมืองที่สามารถรองรับการจัดงานไมซ์อื่นๆ เช่น เชียงราย, เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี, กระบี่, เขาใหญ่ นครราชสีมา และหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

2. Meet at Breathtaking Venues นำเสนอการจัดงานในสถานที่แปลกใหม่และไม่จำเจ 3. Meet with Energy ชูกิจกรรมการผจญภัย (Outdoor Adventures) รวมถึงกิจกรรมการสร้างทีมเวิร์ก (Treasured Team Building) 4. Meet the Sustainable Way ยกกิจกรรม CSR และการจัดประชุมเชิงอนุรักษ์ (CSR and Green meetings) 5. Meet Around Great Flavours การนำเสนออาหารไทยและความหลากหลายของวัฒนธรรมทางอาหารในทุกกิจกรรม (Culinary Journeys)

จัดโปรโมชันสนับสนุนงบประมาณ
น.ส.นุชกล่าวอีกว่า ในส่วนของโปรโมชันส่งเสริมการขายมีการพัฒนาที่สอดรับกับทุกกลุ่มเป้าหมายของ MI ได้แก่ 1. Meet Double Cities สำหรับการเดินทางที่มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากต่างประเทศอย่างน้อย 200 คนที่มีการพำนักในประเทศไทยอย่างน้อย 4 คืนและมากกว่า 1 จุดหมายปลายทาง โดย “ทีเส็บ” จะให้การสนับสนุนงบประมาณเป็นจำนวนเงินสูงสุด 1 แสนบาท เปิดรับสมัครแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 และต้องเดินทางในประเทศไทยภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560

2. Meet Sustainable สำหรับการเดินทางที่มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากต่างประเทศอย่างน้อย 200 คน มีการพำนักในประเทศไทยอย่างน้อย 3 คืน และมีกิจกรรม CSR ในกำหนดการจัดงาน หรือจัดงานในสถานที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน “Thailand MICE Venue Standard” (TMVS) โดย “ทีเส็บ” จะให้การสนับสนุนงบประมาณเป็นจำนวนเงินสูงสุด 1 แสนบาท เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 และต้องเดินทางในประเทศไทยภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560

สำหรับโปรโมชันเพื่อส่งเสริมกลุ่มเมกะไซส์ “ทีเส็บ” ยังคงสนับสนุนด้วยแคมเปญ “Thailand BIG Thanks!” สำหรับการเดินทางที่มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากต่างประเทศอย่างน้อย 2 พันคนและมีการพำนักในประเทศไทยอย่างน้อย 3 คืน โดย “ทีเส็บ” จะให้การสนับสนุนงบประมาณเป็นจำนวนเงินสูงสุด 2 ล้านบาท เปิดรับสมัครต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 และต้องมีการเดินทางในประเทศไทยภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนงานเมกะอีเวนต์ที่จัดขึ้นในประเทศไทยด้วยการเป็นเจ้าภาพงาน IT&CMA และการประมูลสิทธิ์การจัดงาน SITE Global Conference ด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น