xs
xsm
sm
md
lg

77 องค์กรผนึกกำลังครั้งใหญ่ มุ่งสร้างพฤติกรรมบวกเพื่ออนาคตไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


77 องค์กรผนึกกำลังครั้งใหญ่ เปิดตัวโครงการรณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” และ “เครือข่ายอนาคตไทย” มุ่งสร้างพฤติกรรมบวก อันจะเป็นรากฐานที่ดีของการก้าวไปในอนาคตเพื่อขับเคลื่อนสังคมไทยให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2558 หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม รวม 77 องค์กร ได้ร่วมกันจัดงานเปิดตัวโครงการรณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” และ “เครือข่ายอนาคตไทย” เพื่อประกาศเจตนารมณ์และขยายเครือข่ายการรณรงค์

ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองประธานกรรมการมูลนิธิมั่นพัฒนา เปิดเผยว่า เครือข่ายอนาคตไทยเกิดจากการรวมตัวขององค์กรต่างๆ โดยมีองค์กรเริ่มต้นประกอบด้วย กรมประชาสัมพันธ์ หอการค้าไทย มูลนิธิมั่นพัฒนา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย ได้เชิญชวนหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมก่อตั้งเครือข่ายอนาคตไทย จนล่าสุดมีองค์กรเครือข่ายเข้าร่วมโครงการรวม 77 องค์กร ซึ่งต่างมีความตระหนักร่วมกันว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้รับผลกระทบจากกระแสโลกาภิวัตน์และวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่านิยม ทัศนคติ และพฤติกรรมของการดำเนินชีวิตในการอยู่ร่วมกัน ซึ่งนับวันจะกลายเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมไทยเพิ่มมากขึ้น เช่น ความฟุ้งเฟ้อ การทุจริตคอร์รัปชัน ไร้วินัย ไม่เคารพสิทธิ ความเสื่อมทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม

“77 องค์กร ร่วมเจตนารมณ์เครือข่ายอนาคตไทยสร้างการรณรงค์ระดับชาติเพื่อให้ “คนไทย” และ “ประเทศไทย” เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับรากฐานของความคิด ค่านิยม และพฤติกรรมใน 4 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ผ่านสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ เครือข่ายโซเชียลมีเดีย สื่อประชาสัมพันธ์และกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ เช่น โครงการรณรงค์อย่าให้ใครว่าไทย และโครงการของแต่ละองค์กรเครือข่ายสร้างสรรค์ขึ้น”

เครือข่ายอนาคตไทยทั้ง 77 องค์กรจะร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อสร้างสรรค์สังคมไทย ภายใต้แนวทางการสร้างพฤติกรรมบวก เสริมภูมิคุ้มกันทั้ง 4 ด้าน สร้างคนไทยและสังคมไทยให้มีความเข้มแข็ง โดยกระตุ้นให้คนไทยบางกลุ่มปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ทัศนคติเชิงลบ ลดเลิกนิสัยและพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ หันมามีจิตสำนึกและพฤติกรรมที่ดี มีวินัย สร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อเป็นฐานรากใหม่ ให้มีความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย และสร้างความเชื่อมั่นแก่นานาชาติ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ด้วยการพัฒนาคนให้มีคุณธรรมอันเป็นพื้นฐานของความคิดและการกระทำ

นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า สื่อหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจะบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ และเพื่อสร้างพลังการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาของประเทศจากทุกภาคส่วน ทั้งในรูปแบบของการรณรงค์ค่านิยม และการเผยแพร่การรณรงค์ในรูปแบบกิจกรรม

“การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่สังคมทั้ง 4 ด้าน ต้องเริ่มที่ จิตสำนึก ทัศนคติ ของประชาชน สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิต และใช้ได้อย่างง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมทั้งในระดับครัวเรือน ชุมชน องค์กร จึงต้องอาศัยบูรณาการความร่วมมือจากองค์กรและสื่อทุกระดับ”

ทางด้าน นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การเข้าร่วมเครือข่ายอนาคตไทยจะสามารถผลักดันภาคธุรกิจให้มีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้นในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สังคมไทย ทั้งนี้ หอการค้าไทยได้ให้ความสำคัญต่อการสร้างความสมดุลระหว่างเป้าหมายทางธุรกิจให้มีความสมดุลกับการจัดการด้านสังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว และในช่วงที่ผ่านมาได้ร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) ในการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน

“องค์กรธุรกิจมีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากร ทรัพยากร และประสบการณ์ในการขับเคลื่อนการสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับทั้งเครือข่ายอนาคตไทย และภาคธุรกิจที่เข้าร่วม ซึ่งในที่สุดจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว”

เช่นเดียวกับ นายวัฒนา โอภานนท์อมตะ ประธาน CSR Club สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวว่า ซีเอสอาร์ คลับ เกิดจากการรวมตัวของ 28 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะร่วมกันส่งเสริมให้สมาชิกบริษัทจดทะเบียนได้นำแนวคิดและหลักการความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) มาใช้ในการบริหารธุรกิจเพื่อสร้างสมดุลระหว่างมูลค่ากับคุณค่าของธุรกิจ

“การเข้าร่วมเครือข่ายอนาคตไทยนับว่ามีความสอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ “การรวมพลังเพื่อแบ่งปัน” (Connect for Sharing) ของซีเอสอาร์ คลับ เกิดจากความมุ่งมั่นในการรวมพลังร่วมกันระหว่างสมาชิกบริษัทจดทะเบียนกับภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ ในการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน โดยใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์การดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม ที่เรียกว่า CSR-in-Process ซึ่งเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่การพัฒนากระบวนการบริหารจัดการเชิงธุรกิจอย่างยั่งยืน ตลอดจนการพัฒนาสำนึกขององค์กรธุรกิจให้ตอบสนองต่อประโยชน์ของสังคมในทุกมิติให้มากขึ้นด้วย อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนขององค์กร ของสังคม ของประเทศ ตลอดจนของประชาคมโลกด้วย”

นายวิทวัส ชัยปาณี นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการรณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” เป็นกิจกรรมเริ่มต้นของเครือข่ายอนาคตไทย เพื่อสร้างกระแสเตือนสติให้คนไทยปรับเปลี่ยนค่านิยมผิดๆ ผ่านคลิปโฆษณาในเครือข่ายโซเชียลมีเดีย และโทรทัศน์ 4 เรื่องที่สร้างจากการเก็บข้อมูลพื้นฐานในสิ่งที่สังคมต้องการความเปลี่ยนแปลง ซึ่งกระแสตอบรับที่ได้มาสูงสุดในช่วงเปิดตัว คือ “ไทยเท” สื่อถึงคนมักง่ายมีหัวเป็นถังขยะ ชอบทิ้งขยะตามที่สาธารณะ สร้างวิกฤตสิ่งแวดล้อม “ไทยฮุบ” สื่อถึงคนที่รับสินบน โดยไม่คำนึงถึงวิธีการที่ได้มา สังคมการโกงเป็นเรื่องปกติ สร้างวิกฤตวัฒนธรรม “ไทยผีเข้า” สื่อถึงคนไร้สติ เห็นแก่ตัว เป็นวิกฤตสังคม และ “ไทยหัวสูง” นำเสนอภาพของคนที่คลั่งไคล้วัตถุนิยม ใช้เงินเกินตัว สร้างวิกฤตด้านการเงิน

“คลิปรณรงค์ชุดนี้นำเสนอปัญหาที่เราเห็นจนชินตาอยู่ในสังคมไทย โดยลึกๆ เราคนไทยต่างรู้สึกอับอายที่ยังมีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นสะสมมานานในสังคมของเราและรุนแรงขึ้น จนถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลุกขึ้นมาช่วยกันเปลี่ยนแปลง เพื่อช่วยให้สังคมไทยน่าอยู่ มีความหวัง มีอนาคต”



กำลังโหลดความคิดเห็น