กรมการขนส่งทางบกเผยจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างเขต กทม. ตรวจเข้มเสื้อ-คน-บัตร-รถ ข้อมูลต้องถูกต้องตรงกัน ผ่าน 2 สัปดาห์แรกพบผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดแล้ว 582 ราย เตรียมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่กวดขัน ห้ามรถป้ายดำรับ-ส่งผู้โดยสารเด็ดขาด และหากพบการกระทำความผิดซ้ำซาก พักใช้-เพิกถอนใบอนุญาตทันที
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงผลการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะในรอบ 2 สัปดาห์แรก หลังจากเริ่มบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดอย่างเข้มงวด ซึ่งกำหนดให้ผู้ขับรถ เสื้อวิน บัตรประจำตัว และรถจักรยานยนต์รับจ้างทุกคันจะต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องและตรงกัน และห้ามใช้รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำ) มารับจ้างโดยเด็ดขาด โดยพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1-19 สิงหาคม 2558 ตรวจสอบพบผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดแล้ว จำนวน 582 ราย เป็นความผิดฐานลักลอบนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้าง จำนวน 411 ราย โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท โดยกรมการขนส่งทางบกได้เปรียบเทียบปรับตามกฎหมายแล้วทุกราย พร้อมสั่งห้ามนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการประชาชนอีกโดยเด็ดขาด หากตรวจสอบพบการกระทำความผิดซ้ำจะดำเนินมาตรการพักใช้ใบอนุญาตขับรถทันที
นอกจากนี้ ยังพบผู้ขับขี่อีกจำนวน 111 ราย แต่งกายไม่ถูกต้องตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด เช่น ไม่สวมเสื้อวิน ไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ใช้รถที่ยังไม่จดทะเบียน จำนวน 30 ราย ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ใช้รถที่ยังไม่ชำระภาษีรถประจำปี จำนวน 15 ราย ปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท และอีกจำนวน 14 รายมีความผิดฐานไม่แสดงใบอนุญาตขับรถ ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ยังเข้มงวดตรวจสอบความถูกต้องเป็นธรรมด้านค่าโดยสาร โดยต้องมีการเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารตามที่กำหนดเท่านั้น และมีการติดตั้งป้ายแสดงอัตราค่าโดยสารไว้บริเวณที่ตั้งวินเพื่อให้ประชาชนรับทราบ
โดยช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์แรกของการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะในเขตกรุงเทพมหานครตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังคงพบปัญหาการลักลอบนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำ) มารับจ้าง โดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วนช่วงเช้าและช่วงเย็นที่ประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรมการขนส่งฯ ตรียมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อให้สามารถดูแลความปลอดภัยในการใช้บริการรถสาธารณะของประชาชนได้อย่างทั่วถึง และป้องกันพฤติกรรมการกระทำความผิดที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ
ดังนั้น กรมการขนส่งฯ จะติดตามตรวจสอบการให้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะทั่วทุกพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำท้องที่ และเจ้าหน้าที่เทศกิจของกรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะให้ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรมได้โดยเร็ว พร้อมขยายผลการจัดระเบียบการให้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะไปยังส่วนภูมิภาค เพื่อให้เป็นบริการสาธารณะที่มีความปลอดภัยอย่างแท้จริง
