ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -สัปดาห์ที่แล้ว คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการ “กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ พ.ศ. ....” ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงาคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
โดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. กำหนดให้กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และให้ยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ พ.ศ. 2553
2. กำหนดให้นายทะเบียนในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบที่มีที่ตั้งสถานที่รอรับคนโดยสารมีอำนาจเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะในกรณีที่ผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ ถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ หรือเสียชีวิตหรือทุพพลภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์สาธารณะได้
3. กำหนดให้นายทะเบียนในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบที่มีที่ตั้งสถานที่รอรับคนโดยสารมีอำนาจเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะในกรณีที่ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการว่าผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังนี้
3.1 ใช้หนังสือรับรองการใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะปลอมเป็นหลักฐานประกอบการขอจดทะเบียนรถหรือเปลี่ยนประเภทรถ
3.2 กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการในส่วนที่เกี่ยวกับสถานที่รอรับคนโดยสาร เส้นทาง หรือท้องที่ในการรับจ้างหรือค่าจ้างหรือค่าบริการอื่น
3.3 กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดและถูกคณะกรรมการถอดชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้ขับรถในสถานที่รอรับคนโดยสารที่ผู้นั้นขับอยู่ เช่น ให้บุคคลอื่นเช่า ซื้อ หรือดำเนินการอื่นใดเพื่อให้ผู้อื่นขับรถของตนเพื่อการรับจ้างหรือใช้เสื้อกั๊กหรือเสื้อคลุมของตนในการรับจ้าง ไม่ขับรถของตนเพื่อการรับจ้างติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 6 เดือน หรือในรอบระยะเวลา 1 ปี นำรถของตนไปรับจ้างในสถานที่รอรับคนโดยสารอื่นที่ตนเองไม่มีชื่ออยู่ในบัญชี
3.4 ถูกคณะกรรมการถอดชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้ขับรถในสถานที่รอรับคนโดยสารที่ผู้นั้นขับรถอยู่เนื่องจากเหตุดังนี้ ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามเลิกประกอบอาชีพ ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามกฎหมายที่กำหนดไว้
4. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้งเหตุแห่งการเพิกถอน รวมทั้งการตรวจสอบและการพิจารณาของนายทะเบียนเมื่อได้รับหนังสือแจ้งจากคณะกรรมการ
5. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการมีคำสั่งเพิกถอนหรือไม่มีคำสั่งเพิกถอนของนายทะเบียน รวมทั้งการดำเนินการของผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะเมื่อได้รับคำสั่งเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ
เมื่อมีกฎกระทรวงประกาศใช้แล้ว วันรุ่งขึ้น “กรมการขนส่งทางบก” ออกประกาศขีดเส้นว่า “วันที่ 1 ส.ค. นี้”จะเดินหน้าจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้าง ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยอีกหลายหน่วยงาน เช่น กองพลที่ 1 รักษาพระองค์, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.), กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบังคับการตำรวจจราจร และ กรุงเทพมหานคร
เป็นกระบวนการ “จัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะระยะที่ 3” ซึ่งถือว่า เป็นการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนอย่างเข้มงวด และการจัดระเบียบครั้งนี้ยังถือเป็นครั้งแรกที่จะดำเนินการขยายผลสู่ภูมิภาค
ตามประกาศนี้ รถจักรยานยนต์ที่ให้บริการต้องจดทะเบียนป้ายเหลืองให้ถูกต้อง เสื้อวิน บัตรประจำตัว และรถจักรยานยนต์ จะต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องและตรงกัน เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ หรือการปล่อยให้เช่าเสื้อวิน
ห้ามนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล หรือ ป้ายดำ มารับจ้างขนส่งผู้โดยสาร
กำหนดให้ใช้เสื้อวินรูปแบบใหม่ ที่แสดงบัตรประจำตัวและหมายเลขประจำ
ตัวที่ถูกต้องตรงกัน กำหนดให้สถานที่จอดรถมอเตอร์ไซต์รอผู้โดยสาร
ทั้งนี้ หากพบการนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล หรือป้ายดำมาใช้รับ-ส่งผู้โดยสารจะปรับไม่เกิน 2,000 บาท และหากแต่งกายไม่ถูกต้องตามประกาศของกรมการขนส่งทางบก จะปรับไม่เกิน 1,000 บาท และหากไม่แสดงใบอนุญาตขับรถจะปรับไม่เกิน 1,000 บาท ยกเว้นกรณีอยู่ระหว่างผ่อนผันต้องแสดงหนังสือผ่านการอบรม
นอกจากนี้ จะดำเนินการขยายผลการจัดระเบียบ ไปยังส่วนภูมิภาคโดยใช้ “โมเดลของกรุงเทพฯ” เป็นต้นแบบ โดยจะเริ่มเดินหน้าโครงการ ใน 16 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ ปทุมธานี, นนทบุรี, ชลบุรี, สระบุรี, ลพบุรี, นครราชสีมา,ขอนแก่น, อุดรธานี, อุบลราชธานี, พิษณุโลก, เชียงใหม่, นครสวรรค์, สงขลา, ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
กำหนดระยะเวลาในดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อขยายผลต่อไปยังจังหวัดที่เหลือทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2558
ส่วน “กระบวนการจัดทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ” ที่เหลืออีกร้อยละ 10 จากทั้งหมด 83,299 คน กรมการขนส่งทางบก แจ้งว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ขับขี่ ทางกรมการขนส่งทางบก จะเร่งดำเนินการจัดทำให้แล้วเสร็จ
โดยปัจจุบัน มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ได้รับอนุญาตแล้ว จำนวน 5,477 วิน มีรถจักรยานยนต์สาธารณะขึ้นทะเบียนไว้ จำนวน 97,771 คัน คาดว่า จะสามารถส่งมอบครบถ้วนภายในเดือนกรกฎาคม 2558
นโยบายนี้ มีผลสัมฤทธิ์อย่างไร เพราะภายหลังสิ้นสุดการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างระยะที่ 1 และระยะที่ 2 โดยเปิดให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างนำหลักฐาน อาทิ สำเนาใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลหรือสาธารณะ สำเนาทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนเป็นรถสาธารณะแล้ว
ภายหลังเปิดให้ลงทะเบียนขอจัดตั้งวินใหม่และเพิ่มคนในวินเดิมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่า มีวินที่ของตั้งใหม่จำนวน 1,108 วิน วินเดิมที่มีอยู่แล้วจำนวน 4,571 วิน ซึ่งมีผู้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง เดิมมีจำนวน 49,595 คน เพิ่มขึ้นจำนวน 39,737 คน ซึ่งหลังการจัดระเบียบแล้ว จะมีวินทั้งหมดใน กทม. 50 เขต จำนวน 5,679 วิน จำนวนผู้ขับขี่จำนวนผู้ขับขี่ 104,134 คน
“เพราะสิ้นปี 2558 นี้ ผู้ขับขี่ทุกคนทั่วประเทศ จะต้องมี “ใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ”
