xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.ชี้ครึ่งปีหลังกำไรดี หวั่น ศก.มหภาคฉุด-จี้รัฐสร้างความเชื่อมั่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปตท.เผยผลดำเนินงานครึ่งหลังปี 58 ยังสดใส เหตุโรงแยกก๊าซฯ มาร์จิ้นดีขึ้น หลังจากต้นทุนราคาก๊าซฯ ปรับตัวลงและแบกรับภาระขาดทุน NGV ลดลง ส่วนธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมียังไปได้ดี หวั่นเศรษฐกิจมหภาคฉุดความต้องการใช้น้ำมันหดตัวลง จี้รัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือรากหญ้าและฟื้นความเชื่อมั่นคืน เผยจ่อล้มสร้างคลังแอลพีจีนำเข้าเฟส 2 มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท หลังความต้องการใช้แอลพีจีลดลง

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ ปตท.ในครึ่งหลังปี 2558 พบว่ายังดีอยู่ โดยเฉพาะธุรกิจก๊าซธรรมชาติพบว่ามาร์จิ้นโรงแยกก๊าซฯ ปรับตัวสูงขึ้นกว่าครึ่งปีแรกนี้ที่มีกำไรลดลง 25% เนื่องจากต้นทุนราคาก๊าซฯ ได้ปรับตัวลง และการปรับโครงสร้างราคาพลังงานช่วยลดภาระอุดหนุนจากก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ด้วย คาดว่าครึ่งปีหลังนี้ ปตท.จะลดภาระการอุดหนุน NGV ต่ำกว่า 5.5 พันล้านบาท เป็นผลจากความต้องการใช้ NGV ลดลงราว 3% จากการปรับขึ้นราคา NGV

นอกจากนี้ ธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมียังมีค่าการกลั่นที่ดีอยู่แม้ว่าจะอ่อนตัวลงบ้าง ส่วนปิโตรเคมีพบว่ามาร์จิ้นยังสูงเนื่องจากต้นทุนก๊าซฯ และแนฟทาซึ่งเป็นวัตถุดิบในธุรกิจปิโตรเคมีปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันโลก ด้านธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมนั้นยอมรับว่ากำไรปรับลดลงมากจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง แต่ ปตท.สผ.ได้มีการได้ดำเนินการโครงการ ลด ละ เลิก ทำให้มีกระแสเงินสดในมือ 1 แสนล้านบาท จึงเป็นโอกาสในการแสวงหาการลงทุนหรือซื้อกิจการเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมในอนาคตด้วย นอกจากนี้ ปตท.สผ.ได้ทำประกันความเสี่ยงน้ำมันล่วงหน้าไว้ช่วยป้องกันการขาดทุนของบริษัทได้ โดย ปตท.คาดราคาน้ำมันดิบในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

อีกทั้ง บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ยังคงแผนขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในปลายปีนี้ ซึ่ง ปตท.มีนโยบายที่จะขายหุ้นที่ถืออยู่ใน SPRC จำนวน 36% ไปพร้อมกัน หลังจากครึ่งแรกปีนี้ ปตท.ได้ขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ใน บมจ.บางจากปิโตรเลียม และนำ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ปตท.มีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาคโดยเฉพาะเศรษฐกิจรากหญ้าที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และเกิดภัยแล้งซ้ำเติม ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน ปตท.ในครึ่งปีหลังได้หากภาครัฐไม่มีมาตรการหรือนโยบายเข้ามาแก้ไข รวมทั้งควรเร่งออกนโยบายเรียกความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังเกิดเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท. กล่าวว่า ปตท.วางงบการลงทุน 5 ปี (2558-2562) อยู่ที่ 2.99 แสนล้านบาท ในปีนี้ ปตท.ได้ปรับลดงบลงทุน 2 ครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมันจากเดิมกำหนดงบลงทุนไว้ที่ 7.72 หมื่นล้านบาท ก่อนปรับลดลงเหลือ 5.56 หมื่นล้านบาท โดยชะลอการลงทุนในต่างประเทศ เช่น ถ่านหิน เป็นต้น ส่วนการลงทุนสร้างคลังนำเข้าก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เฟส 2 ในไทยคาดว่ายกเลิก หลังการนำเข้าแอลพีจีปรับตัวลดลง 43% เหลือเพียง 8 หมื่นตันต่อเดือน จากเดิมที่นำเข้า 1.6 แสนตันต่อเดือน โครงการนี้ตามแผนจะลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

ส่วนการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ในส่วนของ ปตท.ปีนี้คงมีน้อยมาก แต่หากจะมีจะอยู่ในส่วนของ ปตท.สผ. แต่ก็ยังขึ้นกับแนวโน้มราคาน้ำมันในระยะยาว หลังจากก่อนหน้านี้ ปตท.ได้มีการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ไปแล้ว 780 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงแรง รวมถึงยังได้ปรับตัวด้วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ และจัดลำดับความสำคัญของการลงทุน ตลอดจนการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลัก และบริหารเงินสดที่มีอยู่ให้ดีที่สุด รวมถึงบริหารความเสี่ยงด้านราคาและอัตราแลกเปลี่ยนให้เหมาะสมด้วย

สำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2558 ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย 1,052,261 ล้านบาท ลดลง 292,501 ล้านบาท หรือ 21.8% มาจากปัจจัยทางด้านราคาเป็นหลักแม้ปริมาณขายโดยรวมยังเติบโตต่อเนื่อง โดยราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ลดลงตามราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยครึ่งปีแรกลดลงที่ระดับ 56.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 46,330 ล้านบาท ลดลง 20% จาก 57,895 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 และมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 159,350 ล้านบาท ลดลง 3,432 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปีก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น