กรมธุรกิจพลังงานส่งสัญญาณเตรียมลดประเภทน้ำมันกลุ่มเบนซินลงแน่! แย้ม “แก๊สโซฮอล์ 91” ตัวเลือกดีสุด แต่จะใช้วิธีบังคับหรือใช้ส่วนต่างราคา คาดสรุปได้ไม่เกินสิ้นปีหลังแผนน้ำมันฯ เข้า กพช. ก.ย.นี้
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (17 ส.ค.) กรมฯ ได้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) ปี 2558-79 จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะรวบรวมไปปรับปรุงแผนในการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในเดือน ก.ย.นี้ หลังจากนั้นจะมาจัดทำแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) โดยเฉพาะความชัดเจนการยกเลิกการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 หรือ 95 ที่คาดว่าจะสรุปได้ไม่เกินสิ้นปีนี้เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้เอทานอลให้เป็นไปตามแผน ซึ่งเบื้องต้นแนวโน้มการยกเลิกจะเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 เนื่องจากส่งผลกระทบน้อยสุด
“การยกเลิกตัวใดตัวหนึ่งต้องมีแน่ แต่จะต้องไม่มีผลกระทบต่อผู้บริโภค ไม่ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งมี 2 แนวทาง คือ การบังคับยกเลิกเลย และการใช้กลไกราคาเป็นตัวบังคับใช้ ซึ่งหากมองขณะนี้ก็พบว่ากลุ่มเบนซินนั้นเป็นออกเทน 95 หมดยกเว้นแก๊สโซฮอล์ 91 หากยกเลิกก็จะทำให้น้ำมันเบนซินพื้นฐาน (G-Base) เป็นชนิดเดียวกันหมด และเมื่อลดหัวจ่ายก็จะทำให้คนหันไปเติม E20 ที่มีสัดส่วนการผสมเอทานอลมากขึ้น เพราะเวลานี้รถใช้ E20 มีจำนวนมากแต่กลับใช้น้ำมัน E20 ยังไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น” นายวิฑูรย์กล่าว
สำหรับ Oil Plan ได้กำหนดการผลักดันการใช้พืชพลังงานให้เป็นไปตามศักยภาพการผลิต โดยพบว่าปี 2579 ศักยภาพการผลิตเอทานอลมีสูงถึง 11.3 ล้านลิตรต่อวัน ไบโอดีเซล 14 ล้านลิตรต่อวัน ขณะเดียวกันยังมองถึงการผลักดันให้ชนิดน้ำมันเป็นเกรดที่ใกล้เคียงกันในการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยอยู่ระหว่างการหารือกับกรมควบคุมมลพิษที่ได้กำหนดมาตรฐานน้ำมันเป็นยูโร 6 ปี 2563 ซึ่งคงจะต้องดูความจำเป็นว่าจะเปลี่ยนมากน้อยเพียงใดในปีดังกล่าว
“ผู้ประกอบการไม่อยากให้คุณภาพน้ำมันของไทยนั้นเดินเร็วเกินไป เพราะรถยนต์เองก็จะต้องเปลี่ยน และต้นทุนก็จะสูง ถ้าภูมิภาคนี้มีเพียง 1-2 ประเทศใช้การผลิตก็จะเหลือต้องนำเข้า ซึ่งขณะนี้ไทยกำลังคุยกันในการประชุมพลังงานอาเซียนคงเน้นไปที่ดีเซลก่อนเพราะเกรดใกล้เคียงกันและมีการเดินทางไปมาระหว่างกันอยู่ ซึ่งขณะนี้มีเพียงผสมแค่ไบโอดีเซลเท่านั้น และไทยเองก็เป็นศูนย์กลางพลังงานทดแทน” นายวิฑูรย์กล่าว