“ประยุทธ์” สั่งลงรายละเอียดบริหารน้ำอุปโภคบริโภคทั้งระบบใหม่ พร้อมโอนงานน้ำฉบับ คสช. ให้บอร์ดน้ำชุดใหม่พิจารณา เผย ครม. รับหลักการแต่ให้ไปลงรรายละเอียดใหม่ ก่อนอนุมติกรอบ 1 แสนล้าน ให้แผนจัดการน้ำปี 58 - 59
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ถึงการพิจารณาร่างแผนยุทธศาสตร์บริหารทรัพยากรน้ำ ปี 2558 - 2569 ว่า การบริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภคทั้งระบบ ตนได้ให้เจ้าหน้าที่กลับไปดูรายละเอียดแล้วกลับมารายงานใหม่ ซึ่งตนได้กำชับให้ทุกหน่วยงานรายงานว่า มีอะไรบ้างที่สามารถทำได้และไม่ได้ ภายในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นการวางแผนการบริหารราชการไว้ทั้งหมด โดยตนต้องการทราบความก้าวหน้า หลังจากมอบยุทธศาสตร์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง
จากนั้น คสช. จะโอนอำนาจที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนด นโยบายและบริหารจัดการน้ำ ให้ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ รัฐบาลที่มีคณะกรรมการอยู่ ซึ่งตนต้องการลดอำนาจของ คสช. ลง และต้องการให้เป็นระบบ ซึ่งวันนี้ต้องการทราบว่าที่ได้สั่งการและใช้งบประมาณไปแล้วนั้นเสร็จไปแล้วกี่อย่าง มีบ่อน้ำกี่บ่อ ที่ไหนบ้าง และที่ยังไม่มีจะทำอย่างไร
“ถ้ามาอธิบายย้อนหลังผมไม่ฟัง ที่ประชุมพยายามจะอธิบายย้อนหลังแต่ไปไม่ถึง ใช้เวลาเยอะ แต่ผมต้องการเอาที่สรุปตอนท้าย เพราะได้สั่งประชุมหลายครั้งแล้ว นี่ไงระบบราชการไทยเป็นแบบนี้ ผมสั่งไปอย่างระเอียด ซึ่งรัฐมนตรีต้องเอาไปกรองว่าจะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างไร ซึ่งสั่งไปแล้วผมก็มีอีกร้อยเรื่องต้องดู แต่วันนี้กลับมาเล่าเริ่มต้นให้ฟัง ว่าตรงนี้ ตรงนั้นขาดแหล่งน้ำ เกริ่นนำเสียยืดยาว ผมเป็นทหารไม่ทำอย่างนั้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลง ว่า พลเอก ฉัตรชัย ได้นำเสนอร่างยุทธศาสตร์บริหารทรัพยากรน้ำปี พ.ศ. 2558 - 2569 เพิ่มเติม จากของเดิม 4 เรื่อง โดยเพิ่มอีก 2 เรื่อง คือ การฟื้นฟูต้นน้ำ และ การบริหารจัดการ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการกับแผนยุทธศาสตร์ ดังกล่าว และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ 1 แสนล้าน ในการบริหารจัดการระหว่างปี 58 - 59
มีรายงานว่า ร่างแผนยุทธศาสตร์บริหารทรัพยากรน้ำ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2558 - 2569 วงเงินงบประมาณกว่า 980,000 ล้านบาท ครอบคลุม 6 ยุทธศาสตร์ ที่จัดสรรงบประมาณสูงสุด ให้ความสำคัญกับน้ำสะอาดในหมู่บ้าน ระยะสั้นปี 2558 ตั้งเป้าเพิ่มขึ้น 3,941 หมู่บ้าน ขณะที่ระยะยาวปี 2560 จะครอบคลุม 30,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ
โดย ยุทธศาสตร์ 6 ด้านในเชิงรุก อาทิ การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ การสร้างความมั่นคงทั้งในด้านการผลิตทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม การเพิ่มเติม และปรับปรุงประสิทธิภาพ การปรับปรุงระบบการปลูกพืชที่ประหยัดน้ำ และปรับปรุงระบบเก็บกักน้ำในพื้นที่ที่เป็นปัญหา รวมถึงยุทธศาสตร์การป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่อย่างชัดเจน กลยุทธ์การป้องกันและบรรเทาอุทกภัย การฟื้นฟูทางน้ำในพื้นที่รอบโบราณสถาน การจัดการคุณภาพน้ำเน้นในเรื่องการบริหารจัดการน้ำเสีย และน้ำเค็ม ของกรมควบคุมมลพิษ