นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวในระหว่างจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นการจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) ว่า แผนดังกล่าวจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งแผนนี้สอดคล้องกับแผนอนุรักษ์พลังงานและแผนพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นแผน 20 ปี (2559-2579) โดยหากไม่มีแผนรองรับ คาดว่าความต้องการเชื้อเพลิงในปี 2579 จะมีถึง 65,459 ตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ แต่หากทำตามแผนจะลดการใช้ได้ประมาณร้อยละ30 หรือเหลือประมาณ 35,246 ตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ เช่น ดีเซลจะลดการใช้เหลือ 32 ล้านลิตรต่อวัน กลุ่มเบนซินลดเหลือ 17 ล้านลิตรต่อวัน โดยแผนฯ ยังพิจารณาจากการลงทุนระบบรางของภาครัฐและการเปิดตลาดเสรีเออีซีที่จะต้องมีการผลักดันให้น้ำมันมีมาตรฐานเดียวกัน โดยในส่วนนี้กรมฯ จะหารือกับกรมควบคุมมลพิษ ให้ชะลอการประกาศใช้น้ำมันยูโร 6 ในปี 2563 เพื่อรอการปรับขึ้นมาตรฐานของเพื่อนบ้านเออีซี
สำหรับการดำเนินการจะมี 5 แผนหลัก ได้แก่ การกำหนดมาตรการประหยัดพลังงาน การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ การปรับโครงสร้างราคา การบริหารจัดการและเพิ่มการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ในขณะที่ภาคเอกชนมีความคิดเห็นหลากหลาย เช่น สมาคมผู้ค้าแอลพีจีคัดค้านการขึ้นภาษีแอลพีจีภาคขนส่ง กลุ่มยานยนต์เป็นห่วงเรื่องการผลักดันไบโอดีเซลจาก บี 7 เป็น บี 10 ในปี 2569 และ บี 20 ในอนาคต โดยตามแผนจะกำหนดแนวทางลดชนิดน้ำมันให้เหมาะสมโดยเฉพาะกลุ่มเบนซินที่มีประมาณ 5 ชนิด
สำหรับการดำเนินการจะมี 5 แผนหลัก ได้แก่ การกำหนดมาตรการประหยัดพลังงาน การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ การปรับโครงสร้างราคา การบริหารจัดการและเพิ่มการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ในขณะที่ภาคเอกชนมีความคิดเห็นหลากหลาย เช่น สมาคมผู้ค้าแอลพีจีคัดค้านการขึ้นภาษีแอลพีจีภาคขนส่ง กลุ่มยานยนต์เป็นห่วงเรื่องการผลักดันไบโอดีเซลจาก บี 7 เป็น บี 10 ในปี 2569 และ บี 20 ในอนาคต โดยตามแผนจะกำหนดแนวทางลดชนิดน้ำมันให้เหมาะสมโดยเฉพาะกลุ่มเบนซินที่มีประมาณ 5 ชนิด