“พพ.” ยอมรับยอดการใช้เอทานอลไม่โตเท่าที่ควรจะเป็น ส่อไม่เป็นไปตามแผนเดิมที่กำหนดหลังน้ำมันราคาถูกหนุนรัฐใช้กลไกราคาจูงใจใช้แก๊สโซฮอล์ เพิ่มยอดเอทานอล พร้อมเร่งส่งเสริมฯ คนใช้รถเติม E20 หลังพบมีรถใหม่ที่เติมได้ 2.5 ล้านคันแต่เติมจริงไม่ถึงล้านคัน
นายธรรมยศ ศรีช่วย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยในงานเสวนา “ทิศทางการพัฒนาและส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพ” ว่า วันที่ 26 ส.ค.นี้ พพ.เตรียมจัดระดมความเห็นกลุ่มย่อย (โฟกัสกรุ๊ป) เกี่ยวกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ปี 58-79 ก่อนนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบเดือน ก.ย.นี้
“แผนเดิมจัดทำไว้ปี 2555-64 แผนใหม่จะปรับเป็น 20 ปี โดยยอมรับว่าระดับราคาน้ำมันที่ต่ำปัจจุบันแม้ว่าการใช้เอทานอลยังมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นแต่ไม่มากนัก โดยการใช้เอทานอลขณะนี้อยู่ที่ 3.5 ล้านลิตรต่อวัน แต่แผนกำหนดไว้สิ้นสุดปี 64 ที่ 9 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนไบโอดีเซลวางเป้าหมายไว้สิ้นสุดปี 64 ที่ 7.2 ล้านลิตรต่อวัน โดยขณะนี้มีการใช้ไบโอดีเซลที่ 3.1 ล้านลิตรต่อวัน ถือว่าเดินมาใกล้เคียงกับเป้าหมาย” นายธรรมยศกล่าว
สำหรับเอทานอลซึ่งเป็นพลังงานทดแทนที่ใช้ในกลุ่มเบนซินโดยผสมเป็นแก๊สโซฮอล์นั้น ขณะนี้พบว่ารถยนต์กลุ่มเบนซินมีถึง 4 ล้านกว่าคัน และ 2.5 ล้านคันสามารถใช้ E20 ได้ แต่กลับพบว่ามีการใช้จริงเพียง 15% เท่านั้น ดังนั้น การใช้ E20 เพิ่มขึ้นยังสามารถมีศักยภาพได้ พพ.จึงเตรียมที่จะเน้นการสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนหันมาใช้ E20 เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ระดับนโยบายรัฐเองก็คงจะต้องมาพิจารณาเรื่องราคาด้วยซึ่งจะเห็นว่าส่วนต่างราคา E20 กับ E85 นั้นขณะนี้ไม่ต่างกันมากนักทำให้ไม่เกิดการจูงใจการใช้ E85 ที่มีสัดส่วนผสมเอทานอลสูงกว่า
“ทางกรมธุรกิจพลังงานเองก็มองเรื่องนี้ และอาจจะปรับเรื่องราคาเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนโดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ให้ใกล้กันเพื่อทำให้เหลือชนิดน้ำมันลดลง และไปเพิ่ม E20 และ E85 มากขึ้น โดยแผน AEDP 20 ปีปรับใหม่คงจะเพิ่มสัดส่วนการใช้เอทานอลและไบโอดีเซลไม่มากนักเมื่อเทียบกับแผนเดิม เพราะแผนใหม่จะอิงกับเทคโนโลยีอนาคตที่จะเปลี่ยนไป รวมถึงยุทธศาสตร์ของรัฐที่จะเน้นใช้ระบบขนส่งทางรางมากขึ้น” นายธรรมยศกล่าว
