นายชาญยุทธ อุปพงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม เปิดเผยแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ของจังหวัดนครพนมให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อรองรับการค้าชายแดน และมีพื้นที่อำนวยความสะดวกข้ามแดน รวมถึงการมีศูนย์ประชุมนานาชาติซึ่งมีที่ตั้งศูนย์กลางระเบียงเศรษฐกิจ โดยมีสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) เพื่อเชื่อมโยงในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งแนวทางในการพัฒนาและกำหนดพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้นจะมีการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อให้รองรับกิจกรรมการเติบโตทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งประกอบด้วยสำนักงานเขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบศูนย์บริการร่วม One Stop Service : OSS ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว กิจกรรมบริการท่องเที่ยว สำนักท่องเที่ยวและร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของจังหวัด โรงแรม ร้านอาหาร ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมเพื่อรองรับการค้าระหว่างประเทศ มีร้านค้าปลอดภาษีอากร พัฒนาพื้นที่ให้เป็นการค้าชายแดนที่ทันสมัย มีกิจการค้าส่งให้เป็นที่กลางสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย คลังสินค้าระหว่างประเทศ และศูนย์การขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบ มีบริการลอจิสติกส์ข้ามแดน และท่าอากาศยานนานาชาติและศูนย์ซ่อมอากาศยานนานาชาติ
นอกจากนี้ ได้มีการกำหนดพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มีการวางแผนพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจัดกิจกรรมที่ต้องติดต่อกับบุคคลภายนอกอยู่บริเวณโคกภูกระแตที่สาธารณประโยชน์เนื้อที่ 2,938-2-47 ไร่ เป็นถนนเลี่ยงเมืองเข้าด้านหลังด่านสากลก่อนถึงสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) ซึ่งมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว สำนักงานศุลกากร กิจการค้าส่ง ศูนย์ขนส่งต่อ เนื่องหลายรูปแบบ ส่วนพื้นที่ด้านในริมแม่น้ำโขงประกอบด้วยร้านค้า สำนักงานระหว่างประเทศ โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้าแลการประชุม ร้านค้าปลอดภาษีและคลังสินค้า
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดพื้นที่เพื่อรองรับการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่สาธารณประโยชน์โคกภูกระแตบ้านไผ่ล้อม เนื้อที่ประมาณ 2,938 ไร่ เพื่อใช้สร้างศูนย์การขนส่งชายแดนและศูนย์ส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าผ่านแดน ซึ่งใช้งบประมาณก่อสร้าง 936.31 ล้านบาทเพื่อใช้ในกิจกรรมอื่นๆ เช่น คลังสินค้า ร้านค้าปลอดภาษี ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์สาธารณะประโยชน์ บ้านนาหัวบ่อ ประมาณ 388 ไร่ และมีพื้นที่ติดต่อกันเนื้อที่รวม 447 ไร่ เพื่อจัดสร้างเขตแปรรูปสินค้าเกษตร ปศุสัตว์เพื่อการส่งออก เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์ชุมชน ส่วนพื้นที่ ทำเล เลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์ บ้านหนองบัว เนื้อที่ 303 ไร่ จะเป็นเขตเศรษฐกิจที่จะทำเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและการแพทย์ของอินโดจีน ขณะที่พื้นที่ราชพัสดุสนามบินนครพนม เนื้อที่ 4,500 ไร่รองรับการยกระดับเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ เป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานนานาชาติ ศูนย์ธุรกิจการค้าปลีกและส่ง ตลาดกลางสินค้าเกษตร ส่วนพื้นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์ บ้านราม ราช เนื้อที่ 687 ไร่เป็นพื้นที่ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์และแปรรูปพลังงาน เพื่อสร้างเป็นนิคมอุตสาหกรรมการเกษตรและแปรรูปพลังงาน ส่วนพื้นที่ตำบลตามแนวชายแดน เพื่อที่รองรับการท่องเที่ยว ธรรมชาติ และประเพณีวัฒนธรรมวิถีชีวิตริมแม่น้ำโขง
นายชาญยุทธกล่าวว่า หากจะทำให้ด่านสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) เป็นด่านที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ด่านที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน จะต้องมีการแก้ปัญหาเรื่องการขนส่งสินค้าที่ว่าด้วยเรื่องควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรค (ซีไอคิว) ซึ่งมีการตรวจปล่อยสินค้าจากฝั่งไทยไปประเทศจีน เมื่อรถบรรทุกสินค้า เช่น ผลไม้ และอาหารสด มีการตรวจปล่อยสินค้าจากด่านไทย และเมื่อเข้าไปเขตจีนจะถูกด่านตรวจสอบและกักกันโรค (ซีไอคิว) ตรวจสอบอีก ทำให้ต้องเสียเวลาและส่งผลเสียต่อสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะของสดจะเกิดความเสียหาย ทำให้เสียเปรียบด้านการต่อรองราคาและซื้อขาย มีการกดราคาจากผู้ค้าชาวจีนมาโดยตลอด โดยอ้างถึงคุณภาพสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ ทำให้ผู้ค้าคนไทยเสียเปรียบตลอดเวลา
“อยากเรียกร้องให้รัฐบาลมีการเจรจากับร่วมกับประเทศลาว และจีนใหม่ เพื่อให้ส่งตัวแทนเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเรื่องซีไอคิวที่ด่านไทยทีเดียวเลย เพื่อแก้ปัญหาเรื่องคุณภาพสินค้า”
นอกจากนี้ ปัญหาค่าธรรมเนียมของรถขนส่งสินค้าที่ผ่านสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) เพื่อขนส่งสินค้าไปยังประเทศลาว เวียดนาม และจีน มีค่าธรรมเนียมของรถคอนเทนเนอร์เพิ่มคันละ 8,000 บาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่มาใช้บริการด่านสะพานมิตรภาพ 3 มีต้นทุนสูง และมีความแตกต่างกับผู้ใช้เส้นทางผ่านสะพานที่ 1(เวียงจันทน์-หนองคาย ) และ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) จึงอยากเรียกร้องให้มีการผลักดันและแก้ปัญหาเรื่องค่าธรรมเนียมให้มีความเท่าเทียมกันทุกสะพาน ก็จะทำให้ให้ด่านสะพานมิตรภาพ 3 นี้มีศักยภาพในการแข่งขันกับด่านอื่นๆ ได้อย่างแน่นอน ซึ่งอยากเรียกร้องให้รัฐควรมีการแก้ไขและเร่งเจรจาอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ เพื่อขอแก้ไขความตกลง
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาเรื่องซีไอคิวได้จะทำให้ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและผลไม้ของไทยและอาหารสดได้ประโยชน์อย่างมาก นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมการขนส่งที่มาใช้ด่านสะพานมิตรภาพ 3 ก็มีความแตกต่างกับบริเวณสะพานด่าน 1 และ 2 ซึ่งหากสามารถแก้ไขปัญหาทั้ง 2 ได้จะทำให้ด่านนครพนม-คำม่วน มีโอกาสเติบโตและสามารถดึงให้มีผู้มาใช้บริการในด่านนี้มากขึ้น จนก้าวเป็นเบอร์หนึ่ง และมีศักยภาพเหนือด่านอื่นๆ ที่เรียกได้ว่าเป็น ซูเปอร์ด่านได้ และสอดรับกับการเติบโตของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย และยังสามารถดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในจังหวัดนครพนมเพิ่มขึ้น
นายสมนาม เหล่าเกียรติ อดีตสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดนครพนม กล่าวให้ความเห็นว่า หากมีการลงทุนหลั่งไหลเข้ามาในจังหวัดนครพนมก็เป็นสิ่งที่ดี และศักยภาพของจังหวัดก็มีการเตรียมความพร้อมไว้ในเรื่องของทำเลที่ดินที่เปิดโอกาสให้เช่าที่สาธารณประโยชน์มาใช้พัฒนากว่า 1 หมื่นไร่ ในทำเลต่างๆ ขณะที่นักธุรกิจชาวนครพนมควรจะต้องมีการปรับตัวเพื่อรองรับการลงทุนเพิ่มขึ้นของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาลงทุนในจังหวัดนครพนม ซึ่งอาจจะมีหลายรูปแบบ เช่น การร่วมลงทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้ได้มีนักธุรกิจในจังหวัดได้ร่วมลงทุนในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนต้องการขยายฐานลงทุนใหม่ๆ เพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียน และจังหวัดมีความพร้อมในเรื่องสาธารณูปโภค โดยเฉพาะเส้นทางคมนาคมที่มีความสะดวก จึงอยากให้นักลงทุนพิจารณาจังหวัดนครพนมซึ่งมีสิทธิประโยชน์ในการลงทุนครบถ้วน
