สมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนเร่งรัฐมีความชัดเจนช่วยเหลือผู้ประกอบการ SPP ที่จะทยอยสิ้นสุดสัญญาลงในปี 60-68 ยันไม่สามารถทำตามมติ กพช.ได้ โดยเสนอรัฐให้รับซื้อไฟ 45 เมกะวัตต์ในราคาอิง SPP รอบใหม่ ส่วนโรงไฟฟ้าที่จะสิ้นสุดสัญญาปี 60-61 ให้ต่ออายุสัญญา 3-5 ปีโดยลดการรับซื้อไฟลงเล็กน้อย
นายณรงค์ชัย วิสูตรชัย นายกสมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ ได้ยื่นหนังสือถึงสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (SPP) ใหม่ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่จะสิ้นสุดลงในปี 2560-2568 โดยเสนอให้รับซื้อไฟฟ้าในปริมาณ 45 เมกะวัตต์ และในราคาการรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP รอบใหม่ ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนจะมีการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดด้วย เชื่อว่าทาง สนพ.จะมีความชัดเจนเรื่องนี้ภายในปลายปีนี้
ก่อนหน้านี้มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบแนวทางการแก้ปัญหากลุ่ม SPP ที่จะทยอยสิ้นสุดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าปี 2560-2568 จำนวน 25 โครงการ โดยส่วนแรกจะเป็นกลุ่ม SPP ที่จะทำสัญญาใหม่ ซึ่งจะรับซื้อไฟฟ้าในปริมาณไม่เกิน 20% ของกำลังการผลิตติดตั้งเดิมและในราคาไม่เกินอัตราค่าไฟฟ้าในรูปแบบผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) และอีกส่วนเป็นกลุ่ม SPP ที่จะหมดอายุสัญญาในปี 60-61 จะได้รับการต่ออายุอีก 3-5 ปีในปริมาณรับซื้อที่น้อยที่สุด
นายณรงค์ชัยกล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะทำได้ภายใต้มติ กพช. เนื่องจากผู้ประกอบการต้องบาลานซ์การผลิตไฟฟ้าและไอน้ำป้อนให้เพียงพอต่อโรงงานอุตสาหกรรม และการขายไฟให้ กฟผ. ซึ่งปริมาณการรับซื้อใหม่น้อยเกินไปแค่ 20 เมกะวัตต์จากเดิมที่รับซื้อ 90 เมกะวัตต์ อาจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้ ย่อมมีผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมที่โรงไฟฟ้า SPP ดังกล่าวป้อนไฟฟ้าและไอน้ำอยู่ ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมในนิคมฯ ก็มีความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้มีการสอบถามความชัดเจนในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นขอให้ภาครัฐต่ออายุสัญญาการซื้อไฟฟ้ากับ SPP ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2560-61 ออกไป 3-5 ปี โดยลดปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าลงไม่มากจากสัญญาเดิม ขณะเดียวกันก็หารือเรื่องสัญญารับซื้อไฟฟ้าใหม่หลังจากนั้นด้วย