“พาณิชย์” เผยแล้งคลี่คลาย ต้นเหตุฉุดข้าวราคาตก มั่นใจเปิดประมูลรอบนี้คนเข้าแข่งเพียบ

“พาณิชย์” เปิดเวทีชี้แจงระบายข้าว 6.68 แสนตัน มั่นใจมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลเป็นจำนวนมากแน่นอน ยันข้าวราคาตก เหตุภัยแล้งคลี่คลาย ส่วนการระบายข้าวเสื่อมรอเช็กเชื้อราให้จบก่อนวางแผนระบาย

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เปิดชี้แจงการประมูลสต๊อกข้าวสารรัฐบาล ครั้งที่ 5/2558 ปริมาณ 6.68 แสนตัน ซึ่งหากคิดจากราคาขั้นต่ำที่กำหนดไว้จะมีมูลค่าประมาณ 9,571 ล้านบาท ใน 82 คลัง ซึ่งเป็นข้าวที่อยู่ในคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) 72 คลัง และคลังขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) 10 คลัง ใน 29 จังหวัด โดยได้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจดูสภาพข้าวในคลังได้ 3 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 5-7 ส.ค. 2558 และเปิดให้ผู้สนใจยื่นซองตรวจสอบคุณภาพวันที่ 10 ส.ค. ซึ่งจะประกาศคุณสมบัติและเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 11 ส.ค.นี้

“การประมูลข้าวรอบนี้คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมเสนอราคาจำนวนมาก และน่าจะขายได้เกือบหมด เพราะหากดูจากการประมูลครั้งที่ผ่านมาสามารถอนุมัติขายข้าวได้มากกว่า 70-80% ของปริมาณข้าวที่นำมาเปิดประมูล โดยหลังจากการประมูลรอบนี้เสร็จสิ้นแล้วข้าวที่จะนำมาเปิดประมูลในรอบต่อไปยังคงเป็นข้าวที่เหลือจากคลังที่ผ่านคุณภาพ หรือเกรดเอ และเกรดบี”

น.ส.บรรจงจิตต์กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการกดราคารับซื้อข้าวในช่วงก่อนการเปิดประมูลสต๊อกข้าวสารรัฐบาลว่า การระบายข้าวไม่มีผลทำให้ราคาข้าวในตลาดตกต่ำ แต่ราคาที่ปรับตัวลดลงในช่วงนี้เป็นผลจากกลไกตลาด เพราะราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากความกังวลในเรื่องของสถานการณ์ภัยแล้ง แต่พอฝนตกหนักทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น ราคาข้าวในตลาดจึงปรับตัวลดลงมา ซึ่งเป็นไปตามวัฏจักรขึ้นลงของราคาจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

“ราคาข้าวที่ลดลงไม่ได้เกิดจากการระบายข้าว แต่เกิดจากสถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย มีฝนมากขึ้น ราคาข้าวก็ปรับตัวลดลงมา ซึ่งหากราคาข้าวปรับตัวขึ้นก็คงไม่มีข่าวออกมาแบบนี้ โดยอยากสร้างความเข้าใจว่าเป็นวัฏจักรของสินค้ามากกว่า” น.ส.บรรจงจิตต์กล่าว

น.ส.บรรจงจิตต์กล่าวอีกว่า สำหรับการระบายสต๊อกข้าวเสื่อม ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งตรวจสอบในเรื่องของเชื้อราตามนโยบายของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ซึ่งกระบวนการได้เริ่มไปแล้ว แต่ด้วยปริมาณข้าวที่มีจำนวนมากทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ แต่เชื่อว่าทุกฝ่ายจะเร่งทำงานเพื่อนำข้าวส่วนนี้มาเปิดระบายโดยเร็วที่สุด เพราะหากทราบว่าข้าวดังกล่าวมีเชื้อราหรือไม่ก็จะสามารถวางแผนในการระบายไปสู่อุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง