“พาณิชย์” เตรียมเปิดระบายข้าวอีก 6.68 แสนตันวันที่ 11 ส.ค.นี้ มั่นใจได้รับความสนใจ เผยอาจระบายอีกแต่ปริมาณไม่มาก เหตุต้องดูเรื่องสำรองข้าว ส่วนข้าวเสื่อม รอเช็กคุณภาพให้ชัดก่อนประมูล แย้มข่าวดี ไทยทวงแชมป์ส่งออกข้าวในฮ่องกงกลับคืนมาได้แล้ว แฉผู้ส่งออกกดราคาข้าวก่อนวันเปิดประมูล
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ออกประกาศเปิดระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ครั้งที่ 5/2558 ปริมาณ 6.68 แสนตัน จำนวน 82 คลัง จาก 29 จังหวัด แบ่งเป็นข้าว 11 ชนิด เช่น ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 10% ข้าวเหนียว 10% ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปลายข้าวขาวเอวัน ปลายข้าวขาวเอวันเลิศ ข้าวท่อนปทุม ข้าวปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมมะลิ ปลายข้าวหอมปทุม จากคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และคลังจากองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)
ทั้งนี้ จะมีการชี้แจงรายละเอียดการประมูลในวันที่ 5 ส.ค. และเปิดให้ผู้สนใจยื่นซองเอกสารตรวจสอบคุณสมบัติในวันที่ 10 ส.ค. จากนั้นจะประกาศคุณสมบัติผู้เสนอซื้อที่มีคุณสมบัติครบถ้วนวันที่ 11 ส.ค. และเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาในวันเดียวกัน
“มั่นใจว่าการเปิดระบายข้าวในครั้งนี้จะได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมประมูลซื้อข้าวเป็นจำนวนมาก และน่าจะขายได้ราคาดีขึ้น และหลังจากระบายล็อตนี้ไปแล้วจะมีการเปิดประมูลอีก แต่ปริมาณไม่น่าจะมาก เพราะต้องดูเรื่องปริมาณสำรองข้าวไว้ด้วย ส่วนข้าวเสื่อมก็จะมีการระบายในเร็วๆ นี้ แต่ได้ขอให้ไปตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนว่ามีข้าวดีที่จะแยกออกมาได้หรือไม่ ซึ่งเมื่อชัดเจนแล้วก็จะระบายต่อไป”
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ขณะนี้ไทยสามารถทวงคืนตลาดข้าวในฮ่องกงกลับคืนมาได้แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เสียตลาดไปให้กับเวียดนาม ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ตนได้เดินทางไปเจรจากับทางฮ่องกงและผลักดันให้มีการนำเข้าข้าวไทยมากขึ้นเมื่อ 5 เดือนก่อน และได้ปรากฏผลดีในตอนนี้ โดยช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาฮ่องกงนำเข้าข้าวจากไทยแล้ว 7.8 หมื่นตัน คิดเป็นสัดส่วน 58% ของการนำเข้าทั้งหมด นำเข้าจากเวียดนาม 3.8 หมื่นตัน สัดส่วน 29% จากจีน 9.4 พันตัน สัดส่วน 7% ที่เหลือเป็นประเทศอื่นๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์จะเปิดประมูลข้าวล็อตใหม่ได้มีความพยายามกดราคารับซื้อข้าว โดยมีตัวเลขการรับซื้อล่าสุดวันที่ 29 ก.ค. 2558 ผู้ส่งออกข้าวได้ปรับลดราคาซื้อข้าวขาว 5% (ฤดูกาลใหม่) ลงจาก 1.25 หมื่นบาท/ตัน เหลือ 1.18 หมื่นบาท/ตัน ทำให้โรงสีต้องปรับลดราคาซื้อข้าวเปลือกลงจาก 8,800-9,000 บาท/ตัน เหลือเพียงตันละ 8,300-8,500 บาท ขณะที่ราคาส่งออกไม่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 380-388 เหรียญสหรัฐ/ตัน
นอกจากนี้ จากการสำรวจราคาขายส่งข้าวขาว 5% พื้นที่กรุงเทพฯ ของกรมการค้าภายใน พบว่าราคาข้าวสารได้ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยราคาเมื่อวันที่ 15 ก.ค. ข้าวขาว 5% ได้ขึ้นไปสูงสุดที่ 12.90-13.00 บาท/กิโลกรัม (กก.) และปรับลดลงมาในวันที่ 29 ก.ค. เหลือแค่ 12.50-12.60 บาท/กก. ล่าสุดราคาได้ปรับลดอีกรอบอยู่ที่ 12.40-12.50 บาท/กก. ทั้งๆ ที่มีสถานการณ์ภัยแล้งที่คาดว่าราคาข้าวน่าจะปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับการประมูลข้าวสต๊อกรัฐบาลที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้ว 8 ครั้ง สามารถอนุมัติขายข้าวได้ทั้งหมด 3.88 ล้านตัน มูลค่า 4.09 หมื่นล้านบาท โดยปริมาณข้าวสารสต๊อกรัฐบาลที่ยังคงเหลือ ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2558 มีปริมาณ 15.11 ล้านตัน แยกเป็น 1. ข้าวที่บริโภคได้ 9.15 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวคุณภาพดีเกรดเอและบี ปริมาณ 1.82 ล้านตัน และข้าวเกรดเอ บี ผสมซี ปริมาณ 7.33 ล้านตัน 2. ข้าวที่จะระบายเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมปริมาณ 5.89 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเกรดซี 4.6 ล้านตัน และข้าวเสีย 1.29 ล้านตัน 3. ข้าวที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีอีก 7 หมื่นตัน