กรมทางหลวงชนบทเร่งทำสัญญาผู้รับเหมา 1,761 โครงการ มูลค่า 1.45 หมื่นล้านบาท อัดเม็ดเงินก้อนแรกเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ส.ค.นี้กว่า 2.1 พันล้านบาท พร้อมร่วมมือภาคประชาชนและมหาวิทยาลัยรัฐ 8 แห่งช่วยตรวจสอบคุณภาพและความโปร่งใส เผยทุกโครงการจะเสร็จ 100% ใน ก.พ. 59
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการถนนดีทั่วไทยว่า รัฐบาลได้อนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับกรมทางหลวงชนบท (ทช.) วงเงิน 14,500 ล้านบาท สำหรับดำเนินงาน 1,761 โครงการ กระจายทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังได้จัดหาเงินกู้ให้ โดยเร่งรัดดำเนินโครงการเพื่อให้เม็ดเงินกระจายไปทุกพื้นที่ ไปยังผู้ประกอบการทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก เกิดการสร้างงาน พร้อมกันนี้ ทช.ได้มีการลงนามร่วมกับผู้รับจ้าง ผู้แทนมหาวิทยาลัยรัฐ 8 แห่ง ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจในการทำงาน และในแต่ละพื้นที่จะมีผู้แทนอย่างน้อย 3 กลุ่มร่วมลงนามในการตรวจสอบ ทั้งด้านออกแบบ ผู้ประกอบการที่ผลงานต้องมีคุณภาพ ตัวแทนภาคประชาชนในพื้นที่
“ถนนทั่วประเทศกว่า 4 แสน กม.อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคมประมาณ 1 แสน กม. หรือ 1 ใน 3 ที่เหลือเป็นของท้องถิ่น ซึ่งตามแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน 8 ปีจะพัฒนาถนนที่ยังไม่ได้มาตรฐานให้เป็นมาตรฐาน และที่ได้มาตรฐานแล้วจะยกระดับเป็นมาตรฐานอาเซียนให้ได้ครบ” รมว.คมนาคมกล่าว
นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ทช.ได้ดำเนินการคัดเลือกโครงการเข้ามาดำเนินงานภายใต้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะสามารถเบิกจ่ายงบได้รวดเร็ว โดยได้ดำเนินการประกวดราคาได้ตัวผู้รับจ้างรวมถึงทยอยการลงนามในสัญญาไปบางส่วนแล้ว และจะลงนามสัญญาได้ครบทั้งจำนวน 1,761 โครงการ ภายในกลางเดือน ส.ค. 2558 ซึ่งจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ทันที ซึ่งหลังลงนามสัญญาผู้รับเหมาจะสามารถเบิกค่างาน 15% ไปได้ก่อน ดังนั้นตั้งแต่กลางเดือน ส.ค.นี้เม็ดเงินจะฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจก้อนแรกประมาณ 2,170 ล้านบาท โดยโครงการส่วนใหญ่จะก่อสร้างเสร็จภายในเดือน ธ.ค. 2558 จะเหลืองานที่เป็นการก่อสร้างสะพาน อาจจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ. 2559 ซึ่งจะครบ 100%
ทั้งนี้ ทช.ได้จัดเตรียมระบบการตรวจสอบคุณภาพ การทดสอบคุณภาพงานก่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐานและให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบทุกขั้นตอน ส่วนมหาวิทยาลัยรัฐ 8 แห่งที่เข้ามาสุ่มตรวจงานและความพึงพอใจผู้ใช้ทางหลวงแล้วเสร็จจะมีประมาณ 10% หรือกว่า 200 โครงการจากโครงการทั้งหมด จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนทั้งเรื่องมาตรฐานและความโปร่งใส