ประธานบอร์ด กทพ.ดันออกแบบทางด่วน พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนฯ หวังเปิดประมูลก่อสร้างในปี 59 พร้อมหวังเร่งทางด่วนอีก 3 สายแจ้งเกิดเพื่อช่วยแก้จราจร ทั้งด่วน N2, N3 ด่วนกระทู้-ป่าตอง และสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ขณะที่เล็งบริหารจัดการเองแทนให้สัมปทาน
พล.ท.วิวรรธน์ สุชาติ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายใหม่ว่า ขณะนี้มี 4 โครงการที่มีความเหมาะสมในการเร่งรัดการดำเนินงาน เนื่องจากเป็นโครงข่ายที่สำคัญในการแก้ปัญหาจราจร โดยโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 16.923 กม. วงเงินลงทุน 2.7 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียด คาดว่าจะได้ตัวใน 1-2 เดือน ใช้ระยะเวลาออกแบบ 10 เดือน และจะเปิดประกวดราคาได้ในปลายปี 2559 ซึ่งจะเป็นโครงข่ายทางด่วนและมีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาขนานไปกับสะพานพระราม 9 เดิม เพื่อช่วยระบายปริมาณจราจรช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แนวเส้นทางต่อไปบนถนนพระราม 2 ถึงถนนวงแหวนรอบนอก ซึ่งจะเป็นจุดที่กรมทางหลวง (ทล.) จะก่อสร้างเส้นทางต่อไปจนถึงวังมะนาว เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้การเดินทางลงสู่ภาคใต้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
นอกจากนี้ ต้องการผลักดันการดำเนินโครงการก่อสร้างทางพิเศษขั้นที่ 3 สายเหนือ ในตอน N2, N3 เพื่อแก้ปัญหาจราจรในบริเวณดังกล่าว ส่วนตอน N1 นั้น เนื่องจากยังติดปัญหาการต่อต้านจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จึงยังดำเนินการไม่ได้ รวมถึงโครงการทางพิเศษสายกระทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 3.9 กม. วงเงินลงทุนประมาณ 8.37 พันล้านบาทที่มีการศึกษาแล้ว รอขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติออกแบบ และโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยจะเป็นโครงการที่ช่วยแก้ปัญหาการเดินทางสู่จังหวัดสระบุรีมีปริมาณการจราจรหนาแน่น เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักสู่ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนั้นยังมีปริมาณรถบรรทุกขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากทำให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง โดยเฉพาะในวันหยุดและช่วงเทศกาลจะเกิดปัญหาการจราจรติดขัดตลอดแนวเส้นทาง ตั้งแตกรุงเทพฯ จนถึงจังหวัดสระบุรี
พล.ท.วิวรรธน์กล่าวว่า นโยบายของตนอยากให้ กทพ.เป็นผู้บริหารจัดการทางด่วนเองเนื่องจากมีบุคลากรพร้อมอยู่แล้ว อีกทั้งรายได้จะเข้า กทพ.เต็มที่ ในขณะที่การให้สัมปทานเอกชนมาลงทุนก่อสร้างและบริหารจัดการซ่อมบำรุงนั้น กทพ.จะได้เป็นส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาซึ่งน้อยกว่ามาก โดยจะมีการจ้างที่ปรึกษาเข้ามาศึกษาข้อดีข้อเสีย รูปแบบที่หมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ กทพ.และสำหรับโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“การก่อสร้างทางด่วนใช้เงินลงทุนสูงผลตอบแทนทางการเงินน้อย แต่มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงเพราะช่วยแก้ปัญหาจราจร ซึ่งจะลดต้นทุนด้านการขนส่งได้ จึงมีความจำเป็นและเป็นหน้าที่หลักของ กทพ. ส่วนจะลงทุนรูปแบบใดนั้นขึ้นกับความเหมาะสม ซึ่งเดิมสายพระราม 3-ดาวคะนองฯ อยากจะใช้เทิร์นคีย์ แต่มองว่าอาจะเป็นการผูกขาด จึงให้ กทพ.ออกแบบให้เสร็จก่อนแล้วเปิดประมูลก่อสร้าง ซึ่งตรงนี้จะกู้มาก่อสร้างเองหรือให้เอกชนร่วมลงทุน (Public Private Partnership : PPP) หรือสัมปทานเหมือนกับทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ จะพิจารณาอีกครั้ง โดยปัจจัยหลักที่จะเลือกรูปแบบไหนคือ จะใช้เงินทุนจากไหน และทุกโครงการประมูลจะต้องมีการแข่งขันที่โปร่งใส ยึดนโยบาย COST และสัญญาคุณธรรมด้วย” พล.ท.วิวรรธน์กล่าว