xs
xsm
sm
md
lg

“เดอะมอลล์” ลุยค้าปลีก “ครีเอเจอร์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางมารีส คราทซ์ ( ที่ 2 จากซ้าย )  และ นางสาววิภา อัมพุช (ที่ 3 จากขวา )
“เดอะมอลล์” เดินเครื่อง “ครีเอเจอร์” ผุดร้านคอนเซ็ปต์สโตร์เรียงหน้า ล่าสุดทุ่มงบ 50 ล้านบาทเปิดตัวร้าน “Another Story” ขายสินค้าไลฟ์สไตล์แห่งเดียวในไทย ที่ดิเอ็มควอเทียร์ คาดรายได้ปีแรก 120 ล้านบาท

นางสาววิภา อัมพุช ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เดอะมอลล์กรุ๊ปทำธุรกิจรีเทลค้าปลีกห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้ามานานมากกว่า 10-20 ปีจนประสบความสำเร็จมาแล้ว ขณะนี้ได้ขยายตัวธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “ครีเอเจอร์” (CREATOR) หรือการที่นำแบรนด์ดังจากต่างประเทศ รวมทั้งการสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อนำมาเปิดเป็นร้านคอนเซ็ปต์สโตร์แบบไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย ซึ่งจะมีลักษณะของความเป็นหนึ่งเดียว หรือ “ยูนีค” (UNIQUE)

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า รูปแบบธุรกิจดังกล่าวคือ การเปิดร้านแบบไลฟ์สไตล์ที่จะมีเพียงหนึ่งเดียวในไทย มีสินค้าที่เน้นความเป็นไลฟ์สไตล์ ซึ่งปัจจุบันนี้เดอะมอลล์กรุ๊ปเปิดดำเนินการไปแล้ว 4 คอนเซ็ปต์สโตร์ คือ 1. ร้าน Beam ที่เป็นแบรนด์มาจากญี่ปุ่น เปิดที่ดิเอ็มควอเทียร์ 2. ร้าน Ananda จากเกาหลี เปิดที่ดิเอ็มควอเทียร์ 3. ร้านคอนเทมโพลารี และ 4. ร้าน Another Story ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดเหมือนในต่างประเทศที่เป็นลักษณะนี้ เช่น ร้านเมอร์ซี่ที่ฝรั่งเศส เป็นต้น

นางมารีส คราทซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวในส่วนของร้าน “Another Story” ว่า ร้านนี้ลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท เปิดร้านที่ดิเอ็มควอเทียร์ ชั้น 4 พื้นที่ 900 ตารางเมตร เปิดบริการเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์สโตร์ร้านแรกในไทย เป็นชื่อของทางเดอะมอลล์คิดและพัฒนาขึ้นมาเอง โดยใช้ประสบการณ์ของตัวเองที่ทำงานทางด้านการเงิน รีเทล การค้าต่างประเทศที่สิงคโปร์ และฮ่องกง มาประยุกต์กับประสบการณ์ของกลุ่มเดอะมอลล์ โดยคาดหวังว่าจะมีรายได้รวม 120 ล้านบาทในช่วงปีแรกที่ดำเนินการ และมีการเติบโต 5-10% ต่อปี โดยใช้งบการตลาด 10% จากยอดขาย

นางสาววิภากล่าวเสริมว่า ในร้านจะมีสินค้าที่คัดสรรมาจาก 15 ประเทศ ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยียม สแกนดิเนเวีย เยอรมนี ตุรกี สเปน กรีซ ฮ่องกง สิงคโปร์ และจากดีไซเนอร์ไทย รวมมากกว่า 160 แบรนด์ ซึ่งในจำนวนนี้มีมากกว่า 70 แบรนด์ที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟจากต่างประเทศ ไม่มีขายที่อื่นในไทย และอีก 30 แบรนด์เป็นแบบแคปซูลคอลเลกชันที่ผลิตสินค้าแบบนี้มาขายในร้านนี้อีก โดยแบ่งเป็นสินค้าจากต่างประเทศ 60% และจากดีไซเนอร์ไทย 40%

โดยแบ่งสินค้าเป็น 8 กลุ่ม ดังนี้ 1. แคชชวลแวร์ สัดส่วนสินค้า 17% 2. สเตชันเนอรี 10% 3. ศิลปะ 10% 4. รีสอร์ต หรือสินค้าที่เกี่ยวกับชายหาด 17% 5. เทสตี้ เช่น คาเฟ่ ขนมปัง ชีส ไวน์ 7% 6. ฟังกี้สินค้าสนุกสนาน 1% 7. ตกแต่งบ้าน 22% และ 8. อะโรมา 7% จะมีสินค้าที่ใหม่สลับหมุนเวียนกันเข้ามาทุกสัปดาห์ ราคาตั้งแต่หลักสิบบาทถึงหลักแสนบาท เน้นสินค้าด้านไลฟ์สไตล์เป็นหลัก แต่เฉลี่ยจะอยู่ที่ราคา 1,000-2,000 บาทต่อชิ้น

นางสาววิภากล่าวเสริมว่า มีความเป็นไปได้ที่ในอนาคตอาจจะมีการแยกกลุ่มย่อยของร้านนี้ออกไปเปิดในทำเลใหม่ที่มีความเหมาะสม เช่น ถ้าหากเป็นหัวหินที่เดอะมอลล์กำลังก่อสร้างสาขาใหม่ก็อาจจะนำในส่วนของ Another Sandy Story ไปเปิด หรือเน้นโซนนี้เป็นหลักก็ได้ เพราะเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวชายหาดและทะเล เป็นต้น




กำลังโหลดความคิดเห็น