อวาย่า หันรุกหนักตลาเอเชียแปซิฟิก หลังเห็นแนวโน้มความสำคัญของตลาดที่เกิดขึ้น ล่าสุด จับมือกับกูเกิล และทรูให้บริการคอนแท็กเซ็นเตอร์ผ่านระบบคลาวด์ในไทย เผยผลสำรวจลูกค้ากว่า 44% ของอวาย่า ตั้งเป้าการเติบโตของบริษัทสูงกว่า 10%
ไมค์ แอนสเลย์ ประธานบริหารภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อวาย่า ให้ข้อมูลว่า จากข้อมูลที่มีการคาดการณ์ว่า ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีอุปกรณ์จำนวนกว่า 5.6 พันล้าน คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมดทั่วโลกภายในปี 2020 ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัวที่ที่เพิ่มขึ้น จะช่วยเพิ่มผลผลิต และประสิทธิภาพ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีระบบการทำงานที่รองรับ
“เมื่อโลกดิจิตอลได้เกิดขึ้น ก็จะส่งผลกระทบต่อรูปแบบธุรกิจในปัจจุบันที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้อวาย่ามองถึงการส่งมอบโซลูชันที่จะช่วยให้ลูกค้า และทีมงานมีศักยภาพมากยิ่งขึ้นในตลาด รวมไปถึงการมีโอกาสเติบโต ลูกค้าของอวาย่า 4 จาก 5 ราย ตั้งเป้าหมายในการเติบโตของธุรกิจในอีก 1 ปีข้างหน้า โดยกว่า 44% คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 10%”
ขณะที่ในแง่ของการแข่งขันในตลาด อวาย่า มองว่า การที่เป็นผู้นำในแง่ของคิดค้นบริการผ่านเทคโนโลยีของอวาย่า เพื่อตอบสนองลูกค้าเฉพาะกลุ่มองค์กรของอวาย่า จะทำให้สามารถรักษาฐานการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการให้บริการคลาวด์โซลูชันต่อการให้บริการคอลเซ็นเตอร์ ถือเป็นรายเดียวในท้องตลาด ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของอวาย่า มาจากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกราว 10%
โดยล่าสุด อวาย่า ได้จัดงานแสดงเทคโนโลยีของอวาย่าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก “Asis Pacific Avaya Technology Forum” ขึ้นที่กรุงเทพฯ และได้มีการเชิญลูกค้ าและสื่อมวลชนจากทั่วภูมิภาคมาเข้าร่วมงาน โดยเน้นให้ข้อมูลถึงโซลูขันที่สร้างการมีส่วนร่วมของอวาย่าเพื่อเชื่อมต่อความต้องการเชิงธุรกิจในภูมิภาคเอเชียกับผู้ใช้งานปลายทาง
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการแนะนำระบบเน็ตเวิร์ก SDN Fx ภายใต้สถาปัตยกรรมแบบ fabric-base ทำให้ลูกค้า หรือนักพัฒนาแต่ละรายสามารถนำระบบไปปรับแต่ง และพัฒนาให้เหมาะสมต่อองค์กร เพื่อช่วยให้บริการลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น เหมาะสมต่อความต้องการ ที่สำคัญคือระยะเวลาในการส่งมอบน้อยลง มีเสถียรภาพ
ถัดมาโซลูชันการมีส่วนร่วมของทีมงาน และการทำงานร่วมกันที่ดียิ่งขึ้น โดยจะมีทั้งระบบคลาวด์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วโลกได้มากขึ้น และเปิดโอกาสให้สามารถทำงานร่วมกันในแต่ละองค์กรได้สะดวกยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในประเทศไทยยังได้มีความร่วมมือกับทาง ทรูไอดีซี ซึ่งเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย เปิดตัวระบบ Avaya Agent fot Chrome เพื่อให้บริการภายในประเทศ โดยจะนำระบบดังกล่าวมาช่วยในการให้บริการคอนแท็กเซ็นเตอร์ของอวาย่า เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการของอวาย่าได้ง่ายขึ้นผ่านโครมบุ๊ก
ก่อนหน้านี้ ทางอวาย่าได้มีการสำรวจในเดือนตุลาคม 2557 ระบุว่า ผู้บริโภคในไทย 97% จะคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่กำลังดำเนินอยู่กับบริษัทก่อนที่จะเลือกซื้อสินค้าและบริการ ถัดมา 83% พอใจที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้ากับริษัทที่ให้ความสะดวกในการซื้อผลิตภัณฑ์ และบริการ
“การที่อวาย่ามีเครื่องมือที่จะมาช่วยให้ลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเลือกหาสินค้าให้ผู้บริโภคในท้ายที่สุด ดังนั้น การมีเครื่องมีสำคัญจะยิ่งช่วยให้ธุรกิจเกิดการเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้”