>>วันนี้ Celeb Online พาคุณไปทำความรู้จักกับ “มิลบอน” กุญแจสำคัญที่จะช่วยคุณไขสู่เคล็ดลับความสวยของเส้นผม ผ่านทางหนุ่มคนนี้ “ฮารุมิชิ โอคาซะคิ” ผู้บริหารชาวญี่ปุ่นของแบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับซาลอนอันดับ 1 ในญี่ปุ่น ที่ตอนนี้ได้มาเปิดสาขาในเมืองไทย และกำลังเป็นที่ฮือฮาในบรรดาแวดวงช่างผมไทย ด้วยการเป็นผลิตภัณฑ์เสริมสวยให้เส้นผมซึ่งมีคุณภาพสูงในราคาที่สมเหตุสมผล
คุณฮารุมิชิ โอคาซะคิ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า คุณฮารุ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไป (ฝ่ายขาย) บริษัท มิลบอน (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของแบรนด์ “มิลบอน” ให้ฟังว่า “กำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในฐานะผู้ผลิตเครื่องสำอางเมื่อปี ค.ศ.1960 โดยใช้ชื่อบริษัทว่า “Yutaka Beauty Chemicals” ก่อนที่จะมารวมกับบริษัทชื่อ “Milby Trading” ในภายหลัง และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น “Milbon Co., Ltd.” โดยมุ่งเน้นในการวิจัยและผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเท่านั้น โดยชื่อนี้ได้มาจากคำว่า “Million Born” โดยสื่อถึงการกำเนิด (Born) สิ่งใหม่ๆ ได้มากมายมหาศาล (Million) แต่เพื่อทำให้ใช้ได้เป็นสากลมากขึ้น จึงตัดคำเหลือแต่คำว่า “Milbon” เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและจดจำได้ง่ายขึ้น
โดยในช่วงแรกนั้น บริษัทถือเป็นน้องใหม่ เป็นแค่ผู้ผลิตอันดับที่ 241 ในอุตสาหกรรม แต่อาศัยการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดหย่อนประกอบกับเทคโนโลยีเฉพาะอันทันสมัย ทำให้มิลบอนไต่เต้ามาเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมสำหรับผู้ใช้มืออาชีพอย่างครบวงจร ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น “อันดับหนึ่ง” ในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1999 จนถึงปัจจุบัน”
ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 50 ปี มิลบอนนับเป็นผู้ช่วยสร้างความสวยให้กับเส้นผมของสาวๆ มาโดยตลอด ซึ่งคุณฮารุได้กล่าวถึงหัวใจหลักในการทำธุรกิจของมิลบอนว่า “เราเชื่อว่า “Beautiful Hair , Beautiful People” …ผมสวย ทำให้คุณสวย....มิลบอนจึงคอยเป็นแรงสนับสนุนผู้หญิงในการดูแลความงาม เพราะเชื่อว่าผมที่สวยงามจะทำให้จิตใจงดงามเบิกบานตามไปด้วย โดยจะถ่ายทอดแนวคิดนี้พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนสวยได้ผ่านบุคคลสำคัญซึ่งก็คือ “ช่างทำผม”
มิลบอนเน้นการทำตลาดมุ่งตรงสู่ ซาลอน เป็นสำคัญ ไม่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดทั่วไป โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและพึงพอใจมากที่สุด ซึ่งวงการความงามจะเปลี่ยนแปลงไปพร้อมเทรนด์ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อนำเสนอคุณค่าให้ช่างทำผมที่ต้องการความนำสมัยได้อย่างต่อเนื่อง มิลบอนจึงต้องคิดค้นเทคนิคในการเสริมสวยให้ทันสมัยอยู่เสมอเพื่อตอบสนองความต้องการของช่างทำผมที่ต้องการอัพเดทความนำสมัย โดยกิจกรรมหลักคือการลงภาคสนามเพื่อให้การฝึกอบรมแก่ซาลอน ผ่านทาง อีเวนต์ สัมมนา เวิร์กช็อปเพื่อให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่แฮร์ดีไซเนอร์ พร้อมกับการได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่คุณภาพดี เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง เป็นการสร้างความเจริญเติบโตไปพร้อมๆ กัน ทั้งตัวแบรนด์เอง ลูกค้าคนสำคัญอย่างชาลอนต่างๆ รวมไปถึงวงการความสวยความงามของเส้นผมโดยรวมด้วย”
นอกจากนี้ ความพิเศษสุดที่ทำให้มิลบอนถือเป็นผู้นำของวงการช่างผมมืออาชีพนั่นคือ การที่มิลบอนมีศูนย์วิจัยและโรงงานเป็นของตัวเอง ซึ่งจะค้นคว้าวิจัยจากผมดำของชาวเอเชีย ทำให้ทราบถึงปัญหาและความต้องการของชาวเอเชียจริงๆ พร้อมทั้งการคิดค้นระบบ TAC (Target Authority Customer) ที่ถือเป็นการรับฟังผู้บริโภค และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างตรงจุดที่สุด
“การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เราจะใช้ระบบ TAC ร่วมด้วย ซึ่งเป็นแนวทางการตลาดในแบบเฉพาะของมิลบอนที่ร่วมมือกับแฮร์ดีไซน์เนอร์มือทองในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน โดยแฮร์ดีไซเนอร์ชื่อดังฝีมือดีเหล่านี้จะมาแชร์เคล็ดลับในการใช้เทคนิคเสริมสวยที่ทำให้ประสบความสำเร็จแก่มิลบอนเพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับเทคนิคและวิธีการใช้งานที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของช่างทำผมและเป็นมาตรฐานที่ไม่ว่าซาลอนใดก็สามารถนำไปใช้เสริมสวยให้ประสบความสำเร็จได้ เรียกได้ว่า เราจะพัฒนาผลิตภัณฑ์จากความคิดของช่างทำผม เพื่อให้ช่างทำผมสามารถนำเสนอให้ลูกค้าได้ดีที่สุดจริงๆ”
และการที่มิลบอนได้เข้ามาสู่ประเทศไทยนั้น การดำเนินงานทั้งหมดจะถูกยกรูปแบบมาจากประเทศญี่ปุ่น ไมว่าจะเป็นโรงงาน ที่ได้จำลองรูปแบบเดียวกันกับโรงงานที่ประเทศญี่ปุ่น อย่างในส่วนการออกแบบอาคาร คุณภาพและวัตถุดิบในการผลิตที่ใช้มาตรฐานเดียวกันด้วยเครื่องจักรที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น พร้อมควบคุมการผลิตโดยเจ้าหน้าที่ทีมผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่น โดยเน้นให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย ความมั่นคงในคุณภาพเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าเช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่นทุกประการ
โดยคุณฮารุ กล่าวย้ำว่า “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคนิค การดูแลด้วยการบริการจากใจจริง และการลงภาคสนามไปเยี่ยมแต่ละซาลอนเพื่อนำเสนอการฝึกอบรมที่มิลบอนได้ทำมาตลอดที่ญี่ปุ่น เราตั้งใจจะทุ่มเทแรงกายแรงใจเดินตามแนวทางเดียวกันที่ประเทศไทย เพื่อเป็นแรงสนับสนุนให้ทุกซาลอนมีความเจริญรุ่งเรื่องได้อย่างยั่งยืนเฉกเช่นเดียวกัน”
โดยนอกจากญี่ปุ่นและประเทศไทยแล้ว มิลบอน ยังได้ขยายความพิเศษถ่ายทอดไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นที่ จีน, เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา, มาเลเซีย, เวียดนาม, ไต้หวัน, ฮ่องกง อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ :: Text by FLASH