กระทรวงพลังงานชง กพช.ลดสำรองน้ำมันสำเร็จรูป 6% เหลือ 1% คาดจะลดราคาน้ำมันขายปลีกได้ 9 สตางค์ต่อลิตร
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะมีวาระเรื่องการเสนอลดสำรองน้ำมัน เป็นไปตาม พ.ร.ก.ป้องกันแก้ไขการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเสนอลดสำรองน้ำมันทางกฎหมายสำหรับน้ำมันสำเร็จรูปลงจาก 6% เหลือเพียง 1% ส่วนการสำรองน้ำมันดิบยังคงเดิมที่ 6%
โดยแนวทางการเสนอลดสำรองน้ำมันสำเร็จรูปลงมาเหลือ 1% จะช่วยลดต้นทุนการสำรองน้ำมันของผู้ค้าน้ำมันลงไปด้วย ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปปรับลดลงลิตรละ 9 สตางค์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนได้ใช้น้ำมันในราคาที่ถูกลง
เดิมการสำรองน้ำมันตามกฎหมายรวมอยู่ที่ 12% แบ่งเป็นการสำรองน้ำมันดิบ 6% และสำรองน้ำมันสำเร็จรูป 12% หรือคิดเป็น 43 วัน ดังนั้น เมื่อเสนอให้ลดสำรองน้ำมันตามกฎหมายลดลงเหลือเพียง 7% (สำรองน้ำมันดิบ 6% และสำรองน้ำมันสำเร็จรูป 1%) ทำให้ไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันไว้ใช้ลดลงจาก 43 วันเหลือ 25 วัน
สาเหตุกรมธุรกิจพลังงานเสนอให้ปรับลดสำรองน้ำมันตามกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันได้คลี่คลายโดยเฉพาะด้านราคา และการจัดหาพลังงานในต่างประเทศทำได้ง่าย โดยคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบในปีนี้เฉลี่ยไม่เกิน 53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากมีปริมาณการผลิตน้ำมันล้นตลาดจากการผลิตจากแหล่ง Shale Gas/Shale Oil รวมทั้งกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างโอเปกก็ไม่ได้ปรับลดการผลิตลง ส่วนกลุ่มประเทศนอกโอเปกได้เร่งการผลิตน้ำมันมากขึ้น ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำมันเป็นไปได้น้อย ส่วนการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์เพิ่มเป็น 90 วันนั้น จะมีการขอหลักการในการศึกษาเพื่อให้ภาครัฐลงทุนเองและเกิดความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคต
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังเสนออีกหลายวาระต่อที่ประชุม กพช. ทั้งเรื่องการจัดทำแผนพีดีพีระยะยาว 20 ปี การพิจารณาการกระจายหุ้นโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเดิมมีแผนจะนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงไตรมาส 2/2558 อาจจะต้องเลื่อนออกไปเล็กน้อย
รวมไปถึงแนวทางการพิจารณาเกี่ยวกับสัมปทานปิโตรเลียมที่จะหมดอายุในปี 2564-2565 โดยจะขอหลักการในการเจรจาไม่ว่าจะเป็นรายเก่าหรือรายใหม่ว่า การเจรจาจะต้องจบภายในปี 2560 เพื่อให้ประเทศไทยมีปิโตรเลียมใช้ต่อเนื่องไม่ขาดแคลน และการขยายเวลาการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากเดิมกำหนดหลักเกณฑ์จะต้องเสร็จในเดือนมีนาคม เป็นเดือนมิถุนายน 2558
แหล่งข่าวจากบริษัทน้ำมันกล่าวว่า หาก กพช.อนุมัติลดสำรองน้ำมันสำเร็จรูปตามกฎหมายเหลือ 1% จะช่วยลดค่าใช้จ่าย และการบริหารสต๊อกน้ำมันทำได้ง่ายขึ้น เพราะปัจจุบันบริษัทฯ มีสำรองน้ำมันเชิงพาณิชย์อยู่แล้วประมาณ 3% หรือประมาณ 10 วัน นอกเหนือจากที่สำรองน้ำมันตามกฎหมาย 6% ซึ่งเพียงพอในการบริหารความเสี่ยงด้านน้ำมันระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันได้มีการสำรองน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 6% ทั้งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปมาตั้งแต่ พ.ย. 56 โดยมีภาระต้นทุนที่เกิดขึ้น ยังไม่ได้มีการผลักภาระไปในราคาขาย เนื่องจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ยังไม่ได้อนุมัติให้ปรับราคาที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มสำรองเมื่อ 2 ปีก่อน จึงไม่แน่ใจว่าจะสามารถปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันลงได้ลิตรละ 9 สตางค์ได้ อีกทั้งภาครัฐควรจะปรับลดปริมาณสำรองน้ำมันดิบจาก 6% เหลือ 5% เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศไม่พบความเสี่ยงด้านความมั่นคงด้านพลังงาน