“พาณิชย์” ลุ้นสหรัฐฯ ปลดไทยพ้นบัญชี PWL หลังแก้ไขกฎหมาย 2 ฉบับจนมีผลบังคับใช้ และยังเข้มงวดปราบปรามจนปรากฏผลชัดเจน วงในเผยส่อถูกจัดให้อยู่บัญชีเดิมเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน เหตุสหรัฐฯ ยังไม่พอใจการแก้ไขกฎหมายเอาผิดเจ้าของอาคาร
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) จะประกาศผลการจัดอันดับสถานะคู่ค้าทรัพย์สินทางปัญญา ตามมาตรา 301 กฎหมายการค้าพิเศษสหรัฐฯ ว่า กระทรวงพาณิชย์คาดหวังว่าไทยจะได้รับการพิจารณาจัดอันดับสถานะดีขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯ ได้จัดให้ไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) มาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน โดยจะรู้ผลอย่างเป็นทางการในคืนวันที่ 30 เม.ย. 2558 ตามเวลาในประเทศไทย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไทยได้ดำเนินการผลักดันการแก้ไขกฎหมายตามที่สหรัฐฯ ต้องการ ทั้งการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ในส่วนของข้อมูลการบริหารสิทธิ มาตรการทางเทคโนโลยี และข้อยกเว้นความรับผิดของผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ต และ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ในส่วนของข้อยกเว้นการละเมิดสิทธิ์เพื่อประโยชน์ของคนพิการ และการกระทำความผิดเกี่ยวกับการบันทึกภาพและเสียงในโรงภาพยนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2558 และจะมีผลบังคับใช้ภายใน 180 วัน และ 60 วันตามลำดับ
นอกจากนี้ ไทยยังได้เร่งปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่สีแดง เช่น คลองถม โดยสามารถจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและได้ทำการเผาทำลายไปเมื่อเร็วๆ นี้จำนวนมากถึง 1,300 ตัน ตลอดจนได้พัฒนาระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาให้มีความรวดเร็วขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ต้องการขึ้นทะเบียนขอรับความคุ้มครอง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าไทยมีความคืบหน้าในการพัฒนาด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่จะสามารถสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนต่างชาติ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ไทย
สำหรับสถิติการออกหมายค้น หมายจับ และคดีทรัพย์สินทางปัญญาที่มาสู่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ประจำปี 2557 มีจำนวนคดีทั้งทางแพ่ง และอาญารวมกว่า 4,000 คดี
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ประเด็นที่สหรัฐฯ ต้องการให้ไทยแก้ไขปัญหาก็ได้มีการผลักดันแก้ไขจนสำเร็จแล้ว เว้นแต่เรื่องที่สหรัฐฯ ขอให้เพิ่มบทลงโทษในกฎหมายกับเจ้าของสถานที่ที่ปล่อยให้มีการขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งได้ชี้แจงสหรัฐฯ ไปแล้วว่าไทยไม่สามารถทำได้เพราะจะกระทบต่อประชาชน ที่อาจเป็นเจ้าของตึกแถวแล้วปล่อยให้เช่าเพื่อหารายได้ แต่ไม่ทราบว่ามีการขายสินค้าละเมิด
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า หากไทยถูกจัดอันดับให้อยู่ในบัญชีเดิมก็จะถือเป็นปีที่ 8 ที่ไทยยังอยู่ในสถานะ PWL นับตั้งแต่ปี 2550 โดยหากเป็นไปตามที่คาดก็คงจะมาจากสาเหตุที่สหรัฐฯ ยังไม่พอใจมาตรการดูแลทรัพย์สินทางปัญญาของไทย โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายที่ไทยไม่มีการเพิ่มเติมบทลงโทษกรณีที่เจ้าของสถานที่ปล่อยให้มีการขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
