กรมเจ้าท่าเดินหน้าแก้ปัญหาทำประมงผิดกฎหมาย เร่งจดทะเบียนเรือประมงจัดเข้าระบบ พร้อมสั่งติดตั้งระบบติดตามเรือให้เสร็จภายใน 3 เดือน
นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาการดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU Fishing ว่า กรมเจ้าท่าในฐานะคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในรูปแบบแรงงานประมง ได้เร่งดำเนินการมาตรการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจัดระเบียบเรือประมงและปราบปรามการค้ามนุษย์ในรูปแบบแรงงานประมงและการทำประมงผิดกฎหมาย หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปด้านประมงและทะเลประกาศขึ้นบัญชีประเทศไทยเป็นประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายของไทยใน 4 ประเด็นหลัก โดยให้ระยะเวลา 6 เดือนในการแก้ไขปัญหา ซึ่งกรมเจ้าท่าเร่งรัดให้ดำเนินการมาจดทะเบียนอย่างถูกต้อง การควบคุมการเข้าออกของเรือประมง ซึ่งมีเป้าหมายให้เรือประมงทุกลำเข้าสู่ระบบการจดทะเบียนเรือ พร้อมยกเว้นไม่เก็บค่าธรรมเนียมการตรวจเรือสำหรับเรือประมงขนาดไม่เกิน 20 ตันกรอส
โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการเดินเรือประมงในประทศไทยประมาณ 20,000 ราย และมีเรือประมงทุกขนาดที่อยู่ในระบบประมาณ 53,000 ลำ ซึ่งที่ผ่านมากรมเจ้าท่าได้ดำเนินการจัดระเบียบเรือประมงเข้าระบบอย่างถูกต้อง ล่าสุดมีเรือมาจดทะเบียนประมาณ 30,000 ลำ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเร่งรัดให้เรือที่ยังไม่ได้ดำเนินการจดทะเบียนเรือดำเนินการให้เรียบร้อย รวมถึงกรมเจ้าท่าได้ออกกฎข้อบังคับให้เรือประมงขนาดตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไปต้องติดตั้งระบบติดตามเรือ หรือ VMS ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน นับจากตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีเอกชนพร้อมให้บริการแล้ว 5 ราย ค่าใช้จ่ายประมาณ 40,000 บาทต่อลำ โดยหากไม่ติดตั้งจะไม่ได้รับการต่ออายุทะเบียนเรือ ซึ่งจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หลังจากนั้นจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายออกตรวจตราปราบปราบ ตรวจสอบการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ อย่างถูกต้อง
“ที่ผ่านมากรมเจ้าท่าได้เข้มงวดเรื่องการจดทะเบียนเรือมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ได้มีการแก้ไข พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทยให้มีผลบังคับใช้ หากตรวจสอบแล้วพบว่าเรือลำใดไม่มาต่อทะเบียนเรือเกิน 3 ปีจะยกเลิกทะเบียนเรือซึ่งจะไม่สามารถใช้ดำเนินการใดๆ ได้” นายณัฐกล่าว