หอการค้าจีนและบริษัทก่อสร้างของจีนพบ “ประจิน” เสนอขอลงทุนแบบเทิร์นคีย์ก่อสร้างมอเตอร์เวย์ 3 สาย วงเงินรวมกว่า 1.6 แสนล้าน ด้าน “ประจิน” ชี้หมดสิทธิ์หลักการจะใช้ผู้รับเหมาไทยที่ขึ้นบัญชีชั้นพิเศษไว้กับกรมทางหลวงตามเงื่อนไขการใช้เงินกู้ในประเทศและกองทุนมอเตอร์เวย์ ระบุสนใจจริงเสนอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเข้ามาให้คลังพิจารณาได้
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประธานหอการค้าจีนได้นำคณะผู้บริหารบริษัท จีหลิน (JILIN) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่ก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ในประเทศจีน เข้าพบเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ว่า บริษัทจีหลินของจีนเสนอตัวในการเข้าร่วมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ของกรมทางหลวง 3 สาย ได้แก่ สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม. วงเงิน 20,200 ล้านบาท สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. วงเงิน 84,600 ล้านบาท และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. วงเงิน 55,620 ล้านบาท โดยพร้อมทั้งในแง่การก่อสร้างและการสนับสนุนทางการเงิน
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการมอเตอร์เวย์ของไทยนั้นมีหลักเกณฑ์แล้วชัดเจนทั้ง 3 เส้นทาง โดยสายพัทยา-มาบตาพุด กรมทางหลวงจะก่อสร้างโดยใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์ ซึ่งตามเงื่อนไขจะต้องใช้ผู้รับเหมาที่เป็นบริษัทที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมทางหลวง เป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ทำให้บริษัทก่อสร้างของจีนไม่สามารถยื่นข้อเสนอได้โดยตรงเพราะไม่ได้ขึ้นบัญชีไว้ตามเงื่อนไข แต่หากบริษัทจีนสามารถเข้าร่วมเป็นจอยต์เวนเจอร์ หรือคอนซอร์เตียม กับผู้รับเหมาที่อยู่ในบัญชีไว้ ซึ่งต้องไปดำเนินการเองในส่วนของเอกชน
ส่วนสายบางปะอิน-โคราช, บางใหญ่-กาญจนบุรี อยู่ในขั้นตอนการจัดทำร่าง TOR และกระทรวงการคลังจะเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้ภายในประเทศ ดังนั้นหลักเกณฑ์ก่อสร้างจะต้องเป็นบริษัทที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมทางหลวงเช่นกัน ซึ่งทางจีนรับทราบขั้นตอนแล้ว
ส่วนกรณีที่ทางจีนต้องการเข้าร่วมโดยให้เงินทุนกับโครงการนั้นสามารถเข้ามาได้ใน 2 แนวทาง คือ เสนอเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเงินกู้ในประเทศที่กระทรวงการคลังจัดหา โดยเสนอผ่านทางกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอต่อกระทรวงการคลังให้พิจารณาต่อไป หากจีนเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอาจจะมีการเจรจากัน ส่วนการก่อสร้างจะเป็นการพิจารณาในขั้นตอนต่อไป เนื่องจากต้องดูก่อนว่าข้อเสนอทางการเงินของจีนใช้ได้หรือไม่ หากได้ก็อาจจะสามารถใช้ผู้รับเหมาจีนได้ แต่หากจีนเสนอดอกเบี้ยสูงกว่าที่คลังจัดหาก็จะไม่เข้าข่ายและต้องใช้ผู้รับเหมาไทย
“ประเทศไทยมีกติกาชัดเจนในการลงทุนมอเตอร์เวย์ทั้ง 3 สายแล้ว ซึ่งหากจีนต้องการเข้ามาร่วมจะต้องหาแนวทางที่จะดำเนินการได้ตามที่ให้ข้อมูลไป ไทยเองเข้าใจขั้นตอนเพราะการที่จีนจะเข้ามาโดยการให้เงินกู้นั้นอัตราดอกเบี้ยต่ำๆ จะมีเงื่อนไขเข้ามาด้วย ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในประเทศระหว่างธนาคารต่อธนาคารอยู่ที่ประมาณ 2% เงินกู้ทั่วไป 4-7% ของจีนอยู่ที่ประมาณ 3-4% กรณีที่คลังเป็นผู้จัดหาดอกเบี้ยจะต่ำกว่านี้แน่นอน”
อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงระบุถึงหลักการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ทั้ง 3 สายว่า จะแบ่งวงเงินประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาทต่อสัญญา ยกเว้นโครงสร้างสะพานอาจจะมีวงเงินมากกว่า ซึ่งแต่ละสายจะมีมากกว่า 10 สัญญาแน่นอน เช่น พัทยา-มาบตาพุด 13 สัญญา เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อกระจายงาน และให้การก่อสร้างได้รวดเร็วมากขึ้น โดยจะควบคุมมาตรฐานก่อสร้าง โดยให้ผู้รับเหมาชั้นพิเศษที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมทางหลวงจำนวน 54 บริษัทมีสิทธิ์ประมูลเท่านั้น โดยตามเงื่อนไขผู้รับเหมาชั้นพิเศษจะประมูลงานที่มีมูลค่าเกิน 500 ล้านบาทขึ้นไป
นอกจากนี้ ทางบริษัทจีนยังสนใจเข้าร่วมโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operator : SRTO) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง วงเงิน 2,994.930 ล้านบาท ซึ่งทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ระบุว่าไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากโครงการนี้ กทท.จะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด ทั้งการก่อสร้างและจัดหาเครื่อง โดยจะจ้างเอกชนเข้ามาบริหารเพื่อให้ค่าบริการต่ำที่สุด โดย กทท.อยู่ระหว่างปรับตัวเลข อัตราค่าบริการ และเสนอบอร์ด กทท.เห็นชอบต่อไป