xs
xsm
sm
md
lg

“เคที” เพิ่มทุนดึง “เลคชอร์” หุ้น 26% เสริมแกร่ง “ซานตา เฟ่” รุกสเต๊กฟู้ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เคที” เพิ่มทุน 160 ล้านบาท เป็น 240 ล้านบาท ดึง “กองทุนเลคชอร์” เข้าถือหุ้น 26% เสริมแกร่ง ตั้งเป้าเปิดร้าน “ซานตา เฟ่ สเต๊ก”ครบ 180 แห่ง และร้านอาหารไทย-จีน “เหม็ง” 12 แห่ง ในปี 2561 รายได้รวมทะลุ 3,150 ล้านบาท ส่วนปีนี้ลงทุน 200 ล้านบาท ผุด 2 แบรนด์ให้ครบ 95 สาขา


นายสุรชัย ชาญอนุเดช ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเรียบร้อยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา (2557) จากเดิม 80 ล้านบาท เป็น 240 ล้านบาท โดยมีพันธมิตรใหม่เข้ามาถือหุ้นคือ กองทุนเลคชอร์ (LAKE SHORE) ซึ่งเป็นกองทุนที่มีธนาคารกรุงเทพและธนาคารโลกเป็นสมาชิกถือหุ้นอยู่ ทั้งนี้ บริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งยังคงถือหุ้นใหญ่ 74% ส่วนกองทุนดังกล่าวถือหุ้น 26% ทำให้จากนี้ไปบริษัทฯ พร้อมที่จะขยายการลงทุนเต็มที่

แผนงานระยะยาวภายในปี 2561 จะเปิดร้าน “ซานตา เฟ่ สเต๊ก”ให้ครบ 180 สาขา มีรายได้รวม 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ปี 2558 มีสาขารวม 90 สาขา รายได้รวม 1,400 ล้านบาท ปี 2559 เป็น 120 สาขา รายได้ 1,900 ล้านบาท ปี 2560 เป็น 150 สาขา รายได้ 2,400 ล้านบาท และปี 2561 เป็น 180 สาขา รายได้ 3,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วมี 60 สาขา รายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ต่ำเป้าหมายเล็กน้อย 10% เพราะสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่ดี แต่ก็เปิดสาขามากถึง 18 สาขา

ส่วนปีนี้จะลงทุน 200 ล้านบาท เปิดเพิ่ม 30 สาขา ตั้งแต่ต้นปีเปิดแล้ว 8 สาขา ปัจจุบันมีสาขารวม 68 สาขา นโยบายคือ บริษัทฯ ลงทุน 50% เน้นตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนอีก 50% จะขายแฟรนไชส์ เน้นในต่างจังหวัด จากจำนวนสาขาทั้งหมดทุกปีลงทุนเฉลี่ย 6 ล้านบาทต่อสาขา พื้นที่ 110-150 ตารางเมตร เน้นในศูนย์การค้า และในอีก 3 ปีตั้งงบลงทุน 100 ล้านบาทจะลงทุนระบบลอจิสติกส์ มองพื้นที่บริเวณถนนบางนา-ตราดไว้แล้ว จากปัจจุบันซัปพลายเออร์จัดส่งตามสาขา โดยบริษัทฯ เพิ่งปรับราคาอาหาร 4% ตามภาวะเงินเฟ้อ

สำหรับตลาดสเต๊ก มีมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท เติบโต 12-15% และมีแนวโน้มดีกว่าร้านอาหารทั่วไปที่เติบโตแค่ 5% ถือเป็นตลาดใหม่ หรือบลูโอเชียน (Blue Ocean) แต่ก็เริ่มที่จะมีผู้ประกอบการมากขึ้นแล้วทั้งร้านสเต๊กทั่วไปตามย่านชุมชน ร้านสเต๊กในโรงแรม ร้านสเต๊กในศูนย์การค้า เป็นต้น

ขณะที่ในตลาดต่างประเทศ วางเป้าหมายในปี 2561 จะเริ่มดำเนินการในตลาดเออีซีก่อน เบื้องต้นมีการเจรจากันบ้างแล้วใน 4 ประเทศคือ เวียดนาม กัมพูชา ลาว มาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่ทำธุรกิจอาหารและอาจจะมีความเป็นไปได้ที่บริษัทฯ จะนำร้านอาหารเข้ามาเปิดในไทยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและอนาคต

ส่วนอีกแบรนด์คือ “เหม็ง” ซึ่งปรับจากเดิมร้าน “มิสเตอร์เหม็ง” ที่เป็นติ่มซำมาเป็นร้านอาหารจานหลักไทย-จีน เริ่มทดลองใหม่ ขณะนี้มี 3 สาขาคือ แฟชั่นไอส์แลนด์, เดอะมอลล์บางกะปิ, บิ๊กซีศรีนครินทร์ ปีที่แล้วรายได้ 50 ล้านบาท เตรียมเปิดอีกที่ อิมพีเรียลเวิลด์สำโรง ตามแผนงานปีนี้จะมี 5 สาขา รายได้ 70 ล้านบาท ปี 2559 เป็น 7 สาขา รายได้ 90 ล้านบาท ปี 2560 เป็น 9 สาขา รายได้ 120 ล้านบาท และในปี 2561 เป็น 12 สาขา รายได้ 150 ล้านบาท

นายสุรชัยกล่าวว่า นโยบายบริษัทฯ จะเปิดแบรนด์ใหม่ทุก 3 ปี ขณะนี้มี 2 แบรนด์ ส่วนแบรนด์ “ครัวไท” ที่เป็นอาหารเวียดนามไม่ได้ดำเนินการแล้ว ซึ่งเมื่อรวม 2 แบรนด์ที่มีอยู่จะมีรายได้ปีนี้ที่ 1,470 ล้านบาท จาก 95 สาขา และในปี 2561 จะมีรายได้รวม 3,150 ล้านบาท จาก 192 สาขา จาก 2 แบรนด์นี้ยังไม่นับรวมแบรนด์ใหม่




กำลังโหลดความคิดเห็น