เค.ซี.เมททอลชีท เทรดวันแรกเหนือจอง 0.78 บาท หรือ 60% จากราคา IPO ที่กำหนดขายหุ้นละ 1.30 บาท “นิพนธ์ เจริญกิจ” ปลื้มกระแสตอบรับหุ้นน้องใหม่จากภูธร มั่นใจในช่วง 5 ปีข้างหน้ารายได้เติบโต 15-20% ต่อปี ที่ปรึกษา “แอสเซท โปร” มั่นใจศักยภาพแกร่ง หลังบุกตลาดเออีซีในปีหน้า ดันรายได้ กำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดเห็นความชัดเจนไตรมาสแรกปี 58 ก่อนรุกคืบพม่า กัมพูชา มั่นใจความต้องการในตลาดเพียบ
วันนี้ (23 ธ.ค.) บริษัท เค.ซี.เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) หรือ KCM เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เป็นวันแรกนได้รับการตอบรับจากนักลงทุนจากเป็นอย่างดีเยี่ยม โดยเปิดตลาดที่ระดับ 2.40 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 84.62% เมื่อเทียบกับราคาไอพีโอที่ 1.30 บาท/หุ้น โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายราคาปรับตัวสูงสุดที่ 2.76 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 112.30% และปิดตลาดที่ 2.08 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 0.78 บาท หรือเพิ่มขึ้น 60% มูลค่าการซื้อขาย 1,940.40 ล้านบาท
นายนิพนธ์ เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ KCM เปิดเผยว่า ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับหุ้น KCM ซึ่งถือเป็นหุ้นน้องใหม่เป็นอย่างดี และการที่ราคาปรับทะยานเหนือจอง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อธุรกิจของบริษัทในอนาคต โดยแผนการเนินงานในช่วง 5 ปีข้างหน้า (58-62) ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% จากการขยายธุรกิจ
“ผมมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมาย เพราะเตรียมเงินที่ระดมทุนได้ไปขยายธุรกิจตามแผนโดยเตรียมเปิดสำนักงานขายขนาดเล็กเพิ่มอีก 92 แห่ง ในพื้นที่ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงทุนในธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่า และซื้อเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังการผลิตแปเหล็กกล้ากำลังสูง ซึ่งจะทำให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายนิพนธ์ กล่าว
โดยมีแผนจะขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 58 เบื้องต้น อยู่ระหว่างการเข้าไปร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) คาดได้ข้อสรุปชัดไตรมาสแรกปี 58
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ KCM กล่าวว่า กระแสตอบรับหุ้น KCM ถือว่าดีมาก มั่นใจว่าหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai แล้วจะช่วยเสริมศักยภาพให้บริษัทมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทำให้ส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงต่ำกว่า 1 เท่า จากในช่วงก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 1-2 เท่า ขณะเดียวกัน KCM ยังเตรียมพร้อมขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นลาว พม่า และกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยเข้าไปในลักษณะของการเป็นพันธมิตรร่วมทุน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งจะทำให้รายได้ และกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
