“ลัคกี้” ปรับทิศรุกไทย-เออีซี ทุ่มพันล้านเพิ่มผลิตโฟรเซนฟูด

“ลัคกี้ยูเนี่ยนฟู้ดส์” ปรับทิศรุกไทยและเออีซี หวัง 5 ปีปรับสัดส่วนรายได้เท่ากับส่งออก ทุ่ม 1,000 ล้านบาทเพิ่มกำลังผลิตในไทยและโปแลนด์ ซุ่มตั้งโรงงานใหม่ต่างประเทศอีกแห่ง ปีหน้ารุกหนักเพิ่มช่องทางโมเดิร์นเทรดจับกลุ่มพรีเมียม

นางสาววันทนี แสงอุทัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อปลา แบรนด์ “ลัคกี้” (LUCKY) ในเครือของไทยยูเนี่ยนโฟรเซ่นส์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับนโยบายใหม่โดยหันมาให้ความสำคัญต่อตลาดในประเทศไทยและตลาดเออีซีมากขึ้น จากเดิมที่มีสัดส่วนเพียง 10-20% โดยก่อนหน้านี้เน้นทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก เช่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น มีรายได้มากกว่า 80-90% โดยปีหน้าจะมีความชัดเจนหลังจากที่เริ่มทยอยปรับมาแล้วปีเศษ ตั้งเป้าหมายใน 5 ปีจากนี้มีสัดส่วนรายได้เป็น 50-50% เท่ากันทั้งในและต่างประเทศ จากรายได้รวมที่คาดว่าจะมี 3,000 ล้านบาท

“ตลาดรวมอาหารแปรรูปจากเนื้อปลาในไทยมีมูลค่า 5,000 ล้านบาท มีผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดประมาณ 7-8 ราย ตลาดรวมเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี และมีแนวโน้มโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคให้การยอมรับอาหารแบบนี้มากขึ้นแต่ก็แข่งขันสูงเช่นกันซึ่งเราคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดในไทยประมาณ 400 ล้านบาทในช่วงแรก จากปัจจุบันมีรายได้ในไทยประมาณ 200 ล้านบาท”

แผนรุกตลาดในไทยปีหน้าจะเริ่มขยายช่องทางใหม่ๆ เพื่อเจาะตลาดพรีเมียมคือ ไฮเปอร์มาร์เกต ซูเปอร์มาร์เกต และคอนวีเนียนสโตร์ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าปีหน้าจะเริ่มเข้าจำหน่ายได้ทั้งในบิ๊กซี เทสโก้โลตัส และแม็คโคร เป็นต้น รวมทั้งการเปิดร้านค้าปลีกของตัวเองชื่อว่า ร้าน “ลัคกี้มาร์ท” เปิดสาขาแรกแล้วที่หน้าโรงงานสมุทรสาคร พื้นที่ 5 ห้องแถว ลงทุนประมาณ 210 ล้านบาท เพื่อจำหน่ายอาหารแช่แข็งและแช่เย็นของบริษัทฯ จากเดิมปีที่แล้วเน้นเจาะตลาดต่างจังหวัดกลุ่มเป้าหมายระดับล่าง เช่น ตลาดสด ร้านขายส่ง ร้านโชวห่วย และกลุ่มโฮเรก้า

ในแง่กำลังผลิตได้ใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาทช่วงปีนี้ถึงปีหน้าเพื่อขยายกำลังการผลิตโรงงานที่สมุทรสาคร จากเดิมผลิต 20,000 ตันต่อปี เป็น 30,000 ตันต่อปี พื้นที่เต็ม 15 ไร่ และซื้อที่ดินเพิ่มอีก 15 ไร่รองรับอนาคต ซึ่งทยอยเสร็จเป็นบางส่วน นอกจากนี้ยังมีโรงงานที่โปแลนด์อีก 1 แห่ง จากเดิมผลิต 6,000 ตันต่อปี เพิ่มเป็น 10,000 ตันต่อปี โดยทั้งสองโรงงานนี้คาดว่าจะขยายเสร็จสมบูรณ์ในปีหน้า ขณะนี้มีสินค้าจำหน่ายประมาณ 30 กว่าเอสเคยู และจะออกสินค้ากลุ่มพรีเมียม 2-3 รายการในปีหน้า

ขณะเดียวกันกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะก่อสร้างโรงงานใหม่อีกแห่งในต่างประเทศภายในปีหน้า แต่ยังไม่สรุปว่าจะเป็นทวีปอะไร หรือประเทศอะไร วางแผนใช้งบตลาด 30 ล้านบาทในการจัดกิจกรรมและส่งเสริมการขายและโฆษณาประชาสัมพันธ์ ส่วนตลาดเออีซีและเอเชียได้ตั้งตัวแทนจำหน่ายในลาวกับพม่าแล้ว โดยยังมีการเปิดร้านลัคกี้มาร์ท 1 แห่งที่ลาวด้วย และอยู่ระหว่างแต่งตั้งดีลเลอร์ในกัมพูชาด้วย

นางสาววันทนี กล่าวต่อว่า จากแผนการดำเนินงานนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 2558 ไว้ที่ 2,200 ล้านบาท หากรวมรายได้ที่โปแลนด์อีก 500 ล้านบาทจะเป็น 2,700 ล้านบาท เพิ่มจากปีนี้ที่ทำได้ 1,800 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ในไทยมีรายได้ 200 ล้านบาท จะเพิ่มเป็น 400 ล้านบาทในปีหน้า และอีก 5 ปีรายได้ในไทยจะเป็น 1,000 ล้านบาท