“ประยุทธ์” นัดประชุม นบข.วันนี้ พิจารณาแนวทางระบายข้าวในสต๊อก 17 ล้านตัน ชงวิธีระบายแบบยกคลัง โดยรัฐกำหนดราคาขั้นต่ำ และให้เอกชนเสนอซื้อ ด้านเอกชนเห็นด้วย ช่วยให้ระบายข้าวได้มากขึ้นและเร็วขึ้น แนะไม่จำเป็นต้องกำหนดให้ส่งออก เหตุผู้ผลิตข้าวถุง ทำอาหารสัตว์ก็ต้องการ เผยส่งออกข้าว 11 เดือนทะลุ 10 ล้านตันแล้ว
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า วันที่ 19 ธ.ค. จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยมีวาระการพิจารณาสำคัญคือ แผนระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลว่าควรใช้วิธีการใดเพื่อให้มีความเหมาะสมกับปริมาณข้าวที่มีอยู่ในสต๊อกประมาณ 17 ล้านตัน เพราะข้าวในสต๊อกรัฐบาลเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาข้าวปัจจุบันไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้
ทั้งนี้ แนวทางในการระบายข้าวจะเสนอให้ นบข.พิจารณาการเปิดประมูลขายแบบยกคลัง โดยเอกชนเป็นผู้เสนอราคาซื้อ ขณะที่รัฐกำหนดเกณฑ์ราคาขาย หากราคาเหมาะสมก็อนุมัติขาย แต่หากต่ำกว่าที่รัฐตั้งไว้ก็ไม่ต้องอนุมัติขาย โดยวิธีการนี้รัฐไม่ต้องรับผิดชอบคุณภาพข้าว ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งของการระบายข้าวในปัจจุบันที่จะเลือกขายเป็นกองๆ กำหนดคุณภาพ ชนิด และปริมาณข้าวไว้ชัดเจน แต่เมื่อเอกชนทำสัญญาและไปรับมอบข้าวจริง กลับพบว่าไม่ตรงตามที่ประกาศขาย ก็เกิดปัญหาต้องไกล่เกลี่ยและใช้เวลานาน ทำให้การระบายเป็นไปได้อย่างล่าช้า
“ปกติในการซื้อข้าวในสต๊อก เอกชนจะรู้ว่าข้าวโกดังนั้นๆ โรงสีไหนเป็นคนส่งมอบ ใครเป็นคนดูแล และข้าวมีคุณภาพอย่างไร เป็นข้าวชนิดไหน ซึ่งเป็นข้อมูลทางการค้าที่ในหมู่พ่อค้าด้วยกันเองจะรู้ ซึ่งรัฐบาลไม่มีข้อมูลตรงนี้ จะมีเพียงการระบุว่าเป็นข้าวชนิดใด ปีไหนเท่านั้น เมื่อเอกชนรู้ก็สามารถเสนอราคาซื้อได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เอกชนมาซื้อได้ตามใจชอบ เพราะรัฐก็มีราคาในใจ ถ้าให้ต่ำกว่าก็ไม่ต้องขาย วิธีการนี้จะทำให้การระบายข้าวเร็วขึ้น” นายเจริญกล่าว
นอกจากนี้ เห็นว่าในการระบายข้าวควรเปิดให้เอกชนหลายๆ รายรวมตัวประมูลซื้อข้าวได้เพื่อไม่ให้เป็นการปิดกั้นรายเล็ก และเอื้อประโยชน์เฉพาะรายใหญ่ ส่วนข้าวที่ประมูลไม่จำเป็นต้องกำหนดให้ส่งออก เพราะข้าวในสต๊อกเป็นข้าวเก่าที่นิยมบริโภคในประเทศ และยังทำให้กลุ่มผู้ผลิตข้าวถุง และผู้ผลิตอาหารสัตว์สามารถเข้าร่วมประมูล เพื่อนำข้าวชนิดต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ตามความต้องการได้
แหล่งข่าวจากโรงสีกล่าวว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการจัดการข้าวในสต๊อกรัฐบาล ที่มี น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เอกชนได้เสนอให้มีการระบายข้าวแบบยกคลัง และให้คณะกรรมการระบายข้าวแจ้งและกำหนดราคาขั้นต่ำที่ต้องการขายให้เอกชนที่สนใจซื้อข้าวรับทราบแทนการเสนอราคา เพราะการเสนอราคาผู้ซื้อส่วนใหญ่จะเสนอราคาต่ำกว่าราคาขั้นต่ำ (ฟลอร์ไพรส์) ที่ภาครัฐกำหนดไว้ และแม้จะมีการเสนอเข้ามาอีกรอบก็ยังเป็นราคาที่ต่ำ ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชนเสียโอกาสที่จะขายข้าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า การส่งออกข้าวตั้งแต่ 1 ม.ค.-28 พ.ย. 2557 มีปริมาณรวม 10.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 71.04% โดยราคาเฉลี่ยข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 (2556/2557) ตันละ 1,038 เหรียญสหรัฐ ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 (2557/2558) ตันละ 881 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 5% ตันละ 420 เหรียญสหรัฐ ซึ่งราคาสูงกว่าข้าวชนิดเดียวกันของเวียดนาม เฉลี่ยตันละ 20 เหรียญสหรัฐ ส่วนข้าวเปลือกเจ้า 5% นาปี เฉลี่ยตันละ 7,600-8,000 บาท (ความชื้น 15%)