xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กจิน” สั่ง ร.ฟ.ท.ทำแผนเพิ่มคนอีก 2-4 พันรับทางคู่สายใหม่ จี้เปิดเดินรถสายสีแดงในปี 61

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประจิน” ตรวจ ร.ฟ.ท.เตรียมชงแผนฟื้นฟู ต่อ “ซูเปอร์บอร์ด” พร้อมสั่ง ร.ฟ.ท.ทำแผนเพิ่มบุคลากรอีก 2,000-4,000 คนรองรับการให้บริการในอนาคต รับชง ครม.แก้มติปี 41 สั่งห้ามรับพนักงาน ส่วนรถไฟสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต คืบแค่ 20% สั่งเร่งสปีดปรับแผนก่อสร้าง ตั้งเป้าเปิดเดินรถในปี 61 พร้อมจี้สรุปประมูลสัญญา 3 งานระบบเดินรถใน 25 ธ.ค.นี้ ยอมรับหากต้องปรับกรอบวงเงินไม่ควรเกิน 3 หมื่นล้านต้นๆ หากตกลงไม่ได้ จ่อประมูลใหม่



พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังให้นโยบายการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ว่าจะมีการเสนอแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท.ต่อที่ประชุมซูเปอร์บอร์ดเร็วๆ นี้ซึ่งในแผนฟื้นฟูจะมียุทธศาสตร์ในการเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย การเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร และการเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถทั้งสินค้าและโดยสาร และความปลอดภัยในการให้บริการอย่างเป็นระบบ โดยได้กำชับให้ ร.ฟ.ท.เตรียมความพร้อมรองรับในการให้บริการระบบรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร และรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร (standard gauge) ทั้งการเดินรถ การเตรียมพร้อมด้านบุคลากร และการรองรับเทคโนโลยี การซ่อมบำรุง และระบบลอจิสติกส์ต่างๆ ด้วย

ทั้งนี้ ในหลักการเพิ่มรายได้เมื่อมีหัวรถจักร รถสินค้า และรถโดยสารเพิ่ม จะสามารถเพิ่มความถี่ในการให้บริการได้โดยเฉพาะรถสินค้าที่จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการเพิ่มรายได้ซึ่งจะมีการทำการตลาดเพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งโดยรถไฟให้บริการเอง ร่วมทุนกับเอกชนในการเช่ารถจักร และจัดตั้งสถานีขนถ่ายสินค้า Hub & Spoke ที่ปริมณฑลและต่างจังหวัด ส่วนการลดค่าใช้จ่ายนั้นจะมีการยุบรวมขบวนรถที่มีผู้โดยสารน้อย เพื่อลดต้นทุนแต่จะต้องไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร

ส่วนแผนการเพิ่มบุคลากรให้เหมาะสมเพื่อรองรับการให้บริการในอนาคตที่มีระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ บางส่วนต้องปรับเปลี่ยนหรือโอนงานภายใน เพื่อให้สอดคล้องกับเทคนิคและงานด้านวิศวกรรมที่เปลี่ยนไป คาดว่าจะต้องเพิ่มบุคลากรอีกประมาณ 2,000-4,000 คนและมีการจ้างแรงงานภายนอก (Outsource) ในงานบางส่วนอีกด้วย ซึ่งให้ ร.ฟ.ท.ทำแผนรายละเอียดเรื่องการเพิ่มอัตรากำลัง เสนอมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติหลักการใหม่จากเดิมที่ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2541 ให้รับพนักงานใหม่แทนพนักงานที่เกษียณอายุราชการ ทำได้ไม่เกิน 5% ทำให้ขาดแคลนพนักงาน โดยคาดว่าแผนเรื่องบุคลากรนี้จะชัดเจนในกลางเดือนมกราคม 2558

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายมีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26.3 กม.นั้น พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการแก้ไขแบบสัญญา 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ) วงเงิน 2.98 หมื่นล้านบาท และสัญญาที่ 2 วงเงิน 2.12 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะนำเสนอ ครม.ได้ในเดือนมกราคม 2558 ส่วนสัญญาที่ 3 (ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้าบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) มูลค่า 2.9 หมื่นล้านบาทอยู่ในระหว่างเจรจาเรื่องเงื่อนไขด้านราคาซึ่งน่าจะได้ข้อยุติเร็วๆ นี้

โดยขณะนี้ การก่อสร้างโครงการในภาพรวมคืบหน้าประมาณ 20% หรือล่าช้ากว่าแผนเดิม ประมาณ 1 ปี โดยสัญญา 1 ล่าช้าประมาณ 15% สัญญา 2 ล่าช้าประมาณ 40% โดยจะต้องมีการปรับแผนก่อสร้างใหม่หลัง ครม.อนุมัติการปรับแบบ ส่วนการเปิดเดินรถจะพยายามเร่งรัดให้เปิดได้ในปี 2561 จากแผนเดิมเปิดเดินรถปี 2560

ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.กล่าวว่า รถไฟสายสีแดง สัญญา 3 มีกรอบวงเงินที่ 2.9 หมื่นล้านบาท แต่บริษัทผู้ชนะประมูลเสนอราคามาที่ 4.9 หมื่นล้านบาท ขณะนี้กำลังเจรจาโดยเร่งให้สรุปผลภายในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ เพื่อให้มีความชัดเจนว่าจะสามารถเดินหน้าสัญญานี้ต่อไปได้ หรือต้องเปิดประมูลกันใหม่ โดยมีเงื่อนไขว่าหากราคาที่เอกชนยืนยันกลับมาสูงเกินกรอบ 2.9 หมื่นล้านบาท แต่คงต้องไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาทเศษ และมีเหตุมีผลที่ ร.ฟ.ท.สามารถตอบคำถามกรณีที่ต้องปรับเพิ่มกรอบวงเงินได้ก็จะได้เสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอ ครม.ขอปรับกรอบวงเงินต่อไปแต่หากเป็นราคาที่ยอมรับไม่ได้ จะต้องเร่งยกเลิกและเปิดประมูลใหม่ ได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท.เตรียมความพร้อมเพื่อเริ่มประมูลใหม่ภายใน 6 เดือน เพราะโครงการนี้ล่าช้ามากกว่า 3 ปีแล้ว
















กำลังโหลดความคิดเห็น