ปตท.จูงมือไทยออยล์ลุยต่างประเทศ ยื่นเสนอปรับปรุงโรงกลั่นทั้งพม่า-อินโดฯ

ปตท.ผนึกไทยออยล์รุกธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันพม่า-อินโดนีเซีย เสนอร่วมทุนกับรัฐบาลพม่า ตั้งบริษัทใหม่เข้ามาปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมัน Thanlyin รวมทั้งจัดหาและจำหน่ายน้ำมันในประเทศด้วย ส่วนอินโดนีเซียเสนอประมูลปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันเดิมจำนวน 5 โรง คาดได้ข้อสรุปในปี 2558 แย้มรอผลศึกษา 3 เดือน สรุปแนวทางการนำธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน ปตท.ตลาดหุ้น สร้างความโปร่งใสและความคล่องตัวในการบริหารจัดการ

นายสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปตท.ได้รุกธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านทั้งพม่าและอินโดนีเซีย โดยร่วมกับ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ดำเนินธุรกิจด้านโรงกลั่น เสนอเข้าไปปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันเดิมในประเทศดังกล่าว คาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 2558

ทั้งนี้ ปตท.ร่วมกับไทยออยล์ได้ยื่นเสนอแผนงานปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมัน Thanlyin ขนาดกำลังการผลิต 2 หมื่นบาร์เรล/วันให้กลับมากลั่นน้ำมันได้เต็มที่ โดยแผนงานดังกล่าวยังเสนอเป็นผู้จัดหาน้ำมันดิบ การกลั่นและการจัดหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปให้ผู้ค้าน้ำมันในพม่าด้วย โดยจะตั้งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐบาลพม่า ปตท. และไทยออยล์ โดยสัดส่วนการถือหุ้นกลุ่ม ปตท. 50% และที่เหลือเป็นรัฐบาลพม่า คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท

“โครงการเข้าร่วมประมูลปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันที่พม่านี้ มีคู่แข่งที่เข้าร่วมประมูลเสนอเงื่อนไขต่างๆ กับรัฐบาลพม่า 3-4 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในต้นปี 2558 ซึ่งปัจจุบันพม่ามีความต้องการใช้น้ำมันอยู่ 70,000-100,000 บาร์เรล/วัน”

นายสรัญกล่าวต่อไปว่า ส่วนอินโดนีเซียนั้น ทางเปอร์ตามิน่า ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของอินโดนีเซียมีการเปิดให้ผู้ที่สนใจยื่นความประสงค์ที่จะเข้ามาปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันเดิม 5 โรงที่อยู่คนละทำเล คิดเป็นกำลังการกลั่นรวม 8 แสนบาร์เรล/วัน โดย ปตท.ได้ยื่นเข้าร่วมประมูลในการปรับปรุงโรงกลั่นดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะรู้ผลในปีหน้า

ส่วนแผนการนำธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและนอนออยล์เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงศึกษาอยู่ โดยได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาฯ เพื่อศึกษารูปแบบจะเป็นอย่างไร จะนำธุรกิจนอนออยล์เข้าตลาดหุ้น หรือจะเฉพาะค้าปลีก หรือรวมธุรกิจน้ำมันด้วย คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 3 เดือนข้างหน้านี้

สาเหตุที่ ปตท.มีแนวคิดจะนำธุรกิจน้ำมันเข้าตลาดหุ้นเพื่อความโปร่งใสในการทำธุรกิจ รวมทั้งสร้างความคล่องตัวในการบริหารจัดการ รวมทั้งการขยายธุรกิจค้าปลีก อาทิ ร้านค้าจิฟฟี่ออกไปนอกสถานีบริการน้ำมันให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันกลุ่มธุรกิจน้ำมันของ ปตท.มีส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมันในประเทศอยู่ 38-39% มีรายได้ปีละประมาณ 6 แสนล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8-9 พันล้านบาท

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการลงทุน 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะใช้เงินในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งโครงการลงทุนต่อเนื่องประมาณ 500-700 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปีหน้าบริษัทฯ มีโครงการลงทุนโรงไฟฟ้า SPP 2 โรง กำลังผลิตรวม 230 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า รวมทั้งโครงการร่วมทุนกับมิตซุยตั้งบริษัท ลาบิกซ์ จำกัด (LABIX) เพื่อผลิตและจำหน่ายสาร LAB ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาดในไทย เงินลงทุน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2558