บางจากฯ กำไรไตรมาส 3 วูบหนักเหลือเพียง 380 ล้านบาท เหตุขาดทุนสต๊อกน้ำมันเพียบ โชคดีได้ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์พยุงไว้
นายวิเชียร อุษณาโชติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2557 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 380.98 ล้านบาท ลดลงมากเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,359.05 ล้านบาท เนื่องจากขาดทุนสต๊อกน้ำมัน
โดยไตรมาส 3/2557 บางจากมีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 46,835 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่ปัจจุบันสามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้เต็มกำลังผลิตที่ 118 เมกะวัตต์ ทำให้บริษัทฯ มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) 1,429 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลง ทำให้ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน
สำหรับธุรกิจโรงกลั่นในไตรมาส 3/2557 มีการกลั่นเฉลี่ย 96,990 บาร์เรลต่อวัน ค่าการกลั่นรวม 766 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 2.66 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ทั้งนี้ มีการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 1,408 ล้านบาท ทำให้มี EBITDA 113 ล้านบาท ซึ่งลดลงร้อยละ 94 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ส่วนธุรกิจด้านการตลาดมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันรวม 1,664 ล้านลิตร ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17 ล้านลิตร เนื่องจากการขายผ่านตลาดอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 5 ในขณะที่การจำหน่ายผ่านสถานีบริการน้ำมันบางจากมีปริมาณ 1,221 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการขยายการจำหน่าย E20 เพิ่มเป็น 692 แห่ง และ E85 เพิ่มเป็น 146 แห่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้ บริษัท บางจากฯ ได้ขยายธุรกิจ Non-oil โดยเพิ่มจำนวนร้านกาแฟอินทนิล และร้านสะดวกซื้อบิ๊กซีมินิในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ทำให้มี EBITDA 612 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 74 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันก็รับรู้รายได้จากโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ประมาณ 743 ล้านบาท มี EBITDA 709 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 96 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
บริษัท บางจากฯ ได้ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำ โดยจัดตั้งบริษัทย่อย BCP Energy International Pte. Ltd. ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับด้านพลังงาน ปิโตรเคมี และทรัพยากรธรรมชาติในต่างประเทศ โดยทำสัญญาซื้อขายหุ้นของบริษัท Nido Petroleum Limited ที่จัดตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันได้รับสัมปทานขุดเจาะแหล่งปิโตรเลียมในประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 บริษัท BCP Energy International ได้ซื้อหุ้นสามัญของ NIDO จำนวน 1,431.97 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 65.44 ของหุ้นทั้งหมด