“เชาว์ สตีล อินดัสทรี้” เผยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นเฟสแรก 18 เมกะวัตต์คืบ ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมจ่ายไฟ Q4 ปีนี้แล้ว 1 โครงการ ขนาด 4.019 เมกะวัตต์ ที่เหลือ 14 เมกะวัตต์ มั่นใจเสร็จพร้อมรับรู้รายได้ในปีนี้ “อนาวิล จิรธรรมศิริ” CEO ลั่นพร้อมเดินหน้าลุยธุรกิจเต็มกำลัง หลังปักฐานตั้งสำนักงานในญี่ปุ่นดูแลธุรกิจเต็มตัวแล้ว
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งลงทุนผ่านบริษัทย่อย มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 18 เมกะวัตต์ ว่า ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2557 บริษัทฯ ได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้วเสร็จ 100% แล้วจำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังผลิต 4.019 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดเกียวโต โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่สำคัญต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพของอุปกรณ์ และระบบต่างๆ ของโรงไฟฟ้าอยู่ในระดับมาตรฐานสากล และมีความพร้อมทางด้านประสิทธิภาพการผลิต เหลือเพียงขั้นตอนการเชื่อมสายเพื่อจำหน่ายไฟให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 4 ปีนี้ ส่วนโครงการที่เหลืออีกประมาณ 14 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้าง และจะจำหน่ายไฟฟ้าได้ในปี 2557 นี้ตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นขนาด 18 เมกะวัตต์ บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย พัฒนาโครงการอย่างครบวงจรทั้งการจัดหาที่ดิน ใบอนุญาตต่างๆ ที่จำเป็น และเกี่ยวข้องต่อการจำหน่ายไฟฟ้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ และการก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการนี้ มีใบอนุญาตขายไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่การไฟฟ้าฯ ของประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ที่ราคา 40 เยนต่อหน่วย เป็นเวลา 20 ปี
นายอนาวิล กล่าวอีกว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานทดแทนในตลาดญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว หลังจากพบว่ายังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าจากโครงการพลังงานทดแทนอีกมากกว่า 29,000 เมกะวัตต์ และบริษัทฯ มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี โดยขณะนี้ได้ก่อตั้งสำนักงานในประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้การขยายธุรกิจเป็นไปอย่างคล่องตัว ซึ่งที่
ผ่านมา ได้ดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศญี่ปุ่นใน 3 รูปแบบ คือ ลงทุนด้วยตัวเองผ่านบริษัทย่อย โดยเริ่มเฟสแรกที่ขนาด 18 เมกะวัตต์ดังกล่าว ส่วนรูปแบบที่สองพัฒนาโครงการเพื่อขายให้แก่พันธมิตร ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาโครงการแรกขนาด 23 เมกะวัตต์ ให้แก่บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO ผ่านบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด (PSCL) และรูปแบบที่สามร่วมลงทุนกับพันธมิตร
โดยล่าสุด ได้ลงนามจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ระยะแรก 2 โครงการ กำลังผลิตติดตั้งรวม 33 เมกะวัตต์ และหลังจากนี้จะเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องพร้อมกันทั้ง 3 รูปแบบ ซึ่งจะเห็นความคืบหน้าในไม่ช้านี้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ กล่าวอีกว่า การมุ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ ก็เพื่อสานต่อปณิธานของคณะกรรมการบริษัทฯ ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ก่อให้เกิดรายได้ และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ซึ่งสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และมั่นคงในอนาคต สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว โดยคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าของธุรกิจ และเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจนี้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2557 เป็นต้นไป