BCP คาด EBITDA ปีนี้ เพิ่มขึ้นแตะ 1 หมื่นล้าน ตามเป้าหมาย ย้ำใช้งบลงทุน 1.2 หมื่นล้าน

BCP คาด EBITDA ปีนี้ เพิ่มขึ้นแตะ 1 หมื่นล้านบาท ตามเป้าหมาย ระบุ ธุรกิจกลั่นน้ำมัน และพลังงานทดแทน เป็นตัวหนุน ขณะที่ยืนยันงบลงทุนที่ระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท

นายวิเชียร อุษณาโชติ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปีนี้จะทำ EBITDA ได้เพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมาย

โดยส่วนใหญ่ประมาณ 70% มาจากธุรกิจกลั่นน้ำมันและค้าปลีก ขณะที่อีก 30% มาจากธุรกิจใหม่และพลังงานทดแทน ทั้งนี้ ในปี 2563 ตั้งเป้าหมายที่จะมี EBITDA เพิ่มเป็น 2.5 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งหนึ่งมาจากธุรกิจกลั่นและขายปลีก และจากธุรกิจใหม่และพลังงานทดแทน

ทั้งนี้ บริษัทมีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 1.2 แสนบาร์เรล/วัน และยังลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทอื่นๆ อาทิ โรงงานไบโอดีเซล เอทานอล และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยปีที่แล้ว BCP มี EBITDA ที่ระดับ 9.35 พันล้านบาท

ขณะที่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทตั้งงบลงทุนรวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นการลงทุนในธุรกิจปิโตรเลียม 4 พันล้านบาท ธุรกิจพลังงานทดแทน 3.4 พันล้านบาท และธุรกิจใหม่มากกว่า 5 พันล้านบาท

ขณะเดียวกัน เมื่อต้นสัปดาห์ก่อนบริษัทได้ใช้เงินลงทุนประมาณ 670 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้น 19.66% ในบริษัท Nido Petroleum Limited ซึ่งเป็นบริษัท จดทะเบียนในตลาดหุ้นออสเตรเลีย ซึ่งนับเป็นการขยายฐานลงทุนไปยังต่างประเทศ เป็นครั้งแรก

โดยวานนี้ (4 ส.ค.) BCP ยังได้เสนอขอซื้อหุ้น Nido จากผู้ถือหุ้นที่เหลือ โดยจะใช้เงินไม่เกิน 2.95 พันล้านบาท เมื่อรวมกับการซื้อครั้งแรกจะใช้วงเงินราว 3.62 พันล้านบาท โดยมีระยะเวลาเสนอขอซื้อเบื้องต้นไว้ 1 เดือนตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.2557

สำหรับข้อดีเข้าไปเสนอขอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท NIDO ด้วยข้อดีที่เป็นเจ้าของแหล่งสัมปทาน Galoc ที่กำลังผลิตอยู่ และยังมีแหล่ง West Linapacan ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ในประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงมีแหล่งสัมปทานสำรวจที่มีศักยภาพอื่นๆอีก ทำให้จะมีรายได้เข้ามาทันที และมีโอกาสที่จะเติบโตสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน BCP ยังได้ลงนามเข้าซื้อหุ้น 85% ในบริษัท บีซีพีไปโอเอทานอล จำกัด ซึ่งทำธุรกิจผลิตเอทานอล จากมันสำปะหลัง ขนาด 1.5 แสนลิตร/วัน ใน จ.ฉะเชิงเทรา โดยโรงงานจะเริ่มผลิตและรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/57

ทั้งนี้ การซื้อโรงงานเอทานอลดังกล่าว นับเป็นโรงงานเอทานอลแห่งที่สองของบริษัท และยังมีเป้าหมายจะซื้อโรงงานเอทานอลเพิ่มเติมอีก รวมถึงจะขยายการผลิตไฟฟ้า จากปัจจุบันที่เป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ก็จะขยายเป็นการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล และขยะเพิ่มเติมด้วย โดยเห็นว่าภาครัฐ ควรจะให้ปรับอัตราการให้การสนับสนุนค่าไฟฟ้าด้วย