“ณรงค์ชัย” ถอยรอขึ้นแอลพีจีหลังปีใหม่อ้างดูแลค่าครองชีพประชาชน ลั่นเดินหน้าปรับโครงสร้างราคาพลังงานยกแผงแน่แต่จะมีทั้งขึ้นและลงตามความเหมาะสม อะไรที่ต่ำเกินจริงพร้อมขยับทั้งแอลพีจี NGV รวมถึงดีเซลที่ต้องดูเรื่องภาษีสรรพสามิต
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แนวทางการปรับโครงสร้างราคาพลังงานโดยเฉพาะในส่วนของราคาแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ที่ขณะนี้ส่วนของภาคครัวเรือนและขนส่งเป็นราคาเดียวกันแล้วที่ 22.63 บาทต่อกิโลกรัม และมีนโยบายที่จะปรับให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงนั้นคงจะต้องรอไปพิจารณาในช่วงหลังปีใหม่เพื่อไม่ให้กระทบค่าครองชีพของประชาชนในปัจจุบัน
“รัฐบาลมีนโยบายปรับราคาพลังงานทุกชนิดให้สมเหตุผล คือ ทั้งขึ้นทั้งลง ลงนั้นง่าย ขึ้นสิยาก จึงต้องคอยจังหวะเวลา พอดีตอนนี้ใกล้ปีใหม่ ไม่อยากทำอะไรให้ท่านประชาชนทุกข์ใจ ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มลดลง จึงได้ทยอยลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสะสมได้ระดับหนึ่งจนฐานะเป็นบวกขณะนี้” รมว.พลังงานกล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าได้มีการตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท และมีการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลงถึง 5 บาทต่อลิตร สิ่งนี้ต่อไปก็จะต้องค่อยๆ ทยอยปรับให้สะท้อนเพราะราคาที่ต่ำทำให้มีการใช้ดีเซลสูงถึงวันละ 60 ล้านลิตร เช่นเดียวกับแอลพีจีภาคขนส่งที่ราคายังคงต่ำมากเมื่อเทียบกับน้ำมัน โดยมีราคาเพียง 13 บาทต่อลิตร จึงจูงใจให้ประชาชนหันมาติดตั้งเครื่องยนต์ใช้แอลพีจีมากขึ้น โดยมีใช้แอลพีจีสูงถึง 1.2 ล้านคัน และ NGV 4 แสนคัน
ทั้งนี้ การใช้พลังงานทดแทนโดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซลปัจจุบันยังถือว่าไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมาที่กำหนดให้ราคาแอลพีจีและ NGV มีราคาถูกเกินไปเมื่อเทียบกับน้ำมันกลุ่มเบนซินและดีเซลที่ค่าความร้อนใกล้กันจึงมีการเพิ่มไปใช้รถแอลพีจี และ NGV เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่มไฟฟ้า ก็ยังไม่มีไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน/หมุนเวียน มากเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งก็เพราะต้นทุนของบางกลุ่มยังสูงอยู่ แต่ที่สำคัญคือ กระบวนการอนุมัติโครงการที่ผ่านมาติดปัญหาหลายอย่าง รัฐบาลนี้จึงพยายามแก้ไข เช่นกรณีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน หรือ รง.4 และกำลังปรับปรุงเพื่อให้การดำเนินการโปร่งใส โดยพบว่าขณะนี้พลังงานไฟฟ้าหลายตัวถูกลง เช่น ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากต่างประเทศจะทำให้ต้นทุนค่าไฟสูงขึ้น